ตำรวจสปป.ลาว รับตัวโจรชิงทอง 54 บาท สารภาพขาย 3 เส้น ได้เงิน 3 แสน เหลือ 8 เส้น พบเคยก่อเหตุมา 5 ครั้ง

ตำรวจ สปป.ลาว รับตัวโจรชิงทอง 54 บาทกลับไปดำเนินคดี สารภาพขายแล้ว 3 เส้น ได้เงิน 3 แสน เหลือ 8 เส้น พบเคยก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง นำเงินที่ได้ไปเล่นพนัน

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2566 จากกรณีมีเหตุคนร้ายเป็นชาย สัญชาติลาว ก่อเหตุชิงทองคำรูปพรรณ จากร้านทองพอใจ สาขานครหลวง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองจันทะบุลี นครหลวงเวียงจันทน์ ได้ทองรูปพรรณไปได้น้ำหนักรวม 54 บาท มูลค่า 1,870,000 บาท โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.45 น. ของวันที่ 8 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ก่อนจะหลบหนีการจับกุมของทางการลาวออกนอกประเทศ โดยมีรายงานว่า คนร้ายรายนี้ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย โดยมีจุดหมาย คือ จ.ขอนแก่น โดยหลังจากเกิดเหตุ นางหล้าน้อย พอใจ เจ้าของร้านทองพอใจ ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของร้านทอง ประกาศตั้งค่าหัวล่าโจรปล้นร้านทอง หากผู้ใดมีเบาะแสนำไปสู่การจับกุมได้ จะมอบเงินสดให้ 100 ล้านกีบ หรือ 200,000 บาท และมอบทองคำน้ำหนัก 54 บาท พร้อมของกลางทั้งหมด ทองคำรูปพรรณ 99.99 น้ำหนัก 54 บาท มูลค่า 1,870,000 บาทมอบให้

กระทั่งในเวลาประมาณ 15.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน (พยัคฆ์) สภ.เมืองขอนแก่น สามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ที่ลานจอดรถ The House Condo ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ทราบชื่อคนร้ายคือ ท้าวสิระสอน คำสุขสวัสดิ์ อายุ 27 ปี สัญชาติลาว ชาวเมืองไชยบุรี แขวงไชยบุรี สปป.ลาว พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำรูปพรรณ จำนวน 8 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 40 บาท มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท (ราคาทองคำในประเทศไทย) เงินสดจำนวน 300,020 บาท กระเป๋าเดินทางสีดำ 1 ใบ กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น โดย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา และร่วมกันตรวจสอบของกลาง โดยได้มีการเชิญตัวแทนจากชมรมร้านทอง จ.ขอนแก่น มาทำการตรวจสอบสร้อยคอทองคำด้วย

ต่อมา พ.ต.ท.สมเพชร สุโพทิพย์ หัวหน้าแผนกสืบสวนสอบสวน กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว พร้อมทีมสืบสวนสอบสวน สปป.ลาว ได้เดินทางมาร่วมทำการสอบสวน ตรวจสอบของกลาง และรับมอบตัวผู้ต้องหา เพื่อนำตัวกลับไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของทางการ สปป.ลาว โดยได้มีการร่วมกันแถลงรายละเอียดของการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันที่ห้อง สปก.สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ที่ผ่านมา

Advertisement

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 ได้รับการประสานงานจากกรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว ว่า ท้าวสิระสอน ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทอง ในพื้นที่นครหลวงเวียงจันทน์ ได้หลบหนีการจับกุมของทางการลาว เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น หลังได้รับการประสาน พล.ต.ท.ยรรยงเวช โอสถ ผบช.ภ.4 จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา กระทั้งสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้มาหลับซ่อนตัวอยู่ที่ The House Condo ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นที่พักของแฟนสาว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมตัว โดยสามารถรวบตัวได้ที่บริเวณลานจอดรถของคอนโดมิเนียมดังกล่าว ก่อนจะนำตัวไปตรวจค้นห้องพักและตรวจยึดของกลางมาได้ และจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้ต้องหา พบว่า ไม่ได้ขออนุญาตอยู่ภายในประเทศตามที่กฎหมายกำหนด

พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุชิงทองจริง โดยได้สร้อยคอทองคำรูปพรรณมาทั้งหมด 11 เส้น ก่อนจะหนีมากบดานที่ จ.ขอนแก่น ได้นำทองคำรูปพรรณไปขายที่ฝั่ง สปป.ลาว แล้ว 3 เส้น ได้เงินมากว่า 300,000 บาท จากนั้นได้หลบหนีข้ามมาฝั่งไทยโดยอาศัยช่องทางธรรมชาติ เข้ามาทางจังหวัดเลย จากนั้นได้รถยนต์ของชาวบ้านในจังหวัดเลยให้มาส่งที่คอนโดมิเนียมของแฟนสาวที่ตัวเมืองขอนแก่น ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลางจำนวนดังกล่าว ซึ่งในส่วนของรางวัลนำจับ 200,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำที่ตรวจยึดได้ ซึ่งเจ้าของร้านทองได้ประกาศว่า จะมอบให้เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่จับกุมตัวผู้ต้องหาได้นั้น ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งมอบให้กับตำรวจ สปป.ลาว ตามระเบียบก่อน เพื่อนำไปดำเนินการตามระเบียบก่อน ส่วนจะมีการส่งมอบให้ผู้จับกุมตามที่ได้ประกาศหรือไม่อย่างไรนั้น ขอให้เป็นขั้นตอนต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.สมเพชร สุโพทิพย์ หัวหน้าแผนกสืบสวนสอบสวน กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว กล่าวว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค4 ที่สามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในลักษณะนี้และถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง โดยผู้ต้องหารายนี้ตกเป็นทาสของการพนันและเกมออนไลน์มาตั้งแต่ที่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยในนครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อพ้นโทษออกมาก็กลับมาก่อเหตุอีก โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 โดยหลังจากนี้ทางตำรวจ สปป.ลาว ก็จะได้ควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image