ตะลึง พบศพหนุ่มนิรนาม มือถูกมัดด้วยโซ่กับโคนต้นไม้ ศีรษะ-ใบหน้า เหลือแต่กะโหลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.มณิภัทร์ เพ็งเกร็ด พนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่กำลังเข้าไปหาของป่าว่า พบศพเป็นชายนอนเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้สภาพเน่าเปื่อยเหลือแต่กะโหลก อยู่ภายในป่าหุบเขาพื้นที่บ้านหนองสามพราน หมู่ 9 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพนธ์ จันทร์ทอง ผกก.สภ.ลาดหญ้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลาดหญ้า แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ แต่เนื่องจากสถานที่พบศพเป็นป่าและหุบเขา ไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้เจ้าหน้าที่จึงจอดรถทิ้งไว้ริมถนนแล้วเดินเท้าเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร

เมื่อไปถึงพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่เน่าเปื่อยใบหน้าเห็นเพียงกะโหลก ข้อเท้าทั้ง 2 ข้างขาดหายไป ข้อมือทั้งสองข้างผูกด้วยโซ่ติดกับโคนต้นไม้ การแต่งกายนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อยืดสีเทาแขนยาว ที่เอวพบเข็มขัดแบบมีกระเป๋าคาดอยู่ ใกล้กันพบกระสอบสำหรับใส่ข้าวสาร 1 ใบ ภายในมีไฟแช็ก กาแฟ มีดพับ ยาสีฟัน ยาสระผม และหนังสติ๊ก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเงินสดอยู่อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งสมุดสำหรับจดบันทึก มีอักษรเป็นภาษาพม่าเขียนเอาไว้ และแป้งกระแจะที่แรงงานชาวพม่านิยมใช้ทาที่แก้มทั้งสองข้าง ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ได้นำทรัพย์สินของผู้ตายไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมสิ่งของทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยจากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าผู้เสียชีวิตเป็นแรงงานชาวพม่า มีอายุระหว่าง 30-40 ปี สูงประมาณ 160-165 เซนติเมตร เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15-20 วัน

จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า ที่บริเวณใบหน้ามีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนฟันกรามด้านล่างผิดรูป คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยลงมือก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหด ด้วยการจับล่ามโซ่ติดกับต้นไม้แล้วรุมทุบตีจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า ผู้ตายน่าจะเป็นชาวพม่าที่อาจลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และถูกมาเฟียชาวพม่าด้วยกันจับตัวมาข่มขู่เรียกรับค่าคุ้มครองหรือค่าหัวคิว และเมื่อผู้ตายไม่จ่ายก็จึงลงมือทำร้ายร่างกาย หรืออาจเกิดจากเรื่องแค้นส่วนตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่สถาบันนิติเวช ส่วนเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image