จากกรณีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์เอาสร้อยข้อมือและสร้อยคอทองคำ 2 เส้น และเงินสด รวมมูลค่ากว่า 4 หมื่นบาทในอาคารศาลอาญา รัชดาฯ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯเมื่อกลางดึกวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพนักงานรักษาความปลอดภัยและแม่บ้านของศาลอาญาไปแล้วกว่า 30 ปาก ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ทำงานในช่วงวันและเวลาระหว่างเกิดเหตุ ทั้งนี้กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุไว้แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างรอผล ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่าลายนิ้วมือแฝงที่ได้มานั้นจะเป็นของคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะอาจจะเป็นของเจ้าหน้าที่ แม่บ้าน ที่ทำงานอยู่ตรงนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่มีข้อมูลและเบาะแสบางอย่างที่จะนำไปสู่การติดตามตัวคนร้ายแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ และการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่บก.สส.บชน. กก.สส.บกน.2 และฝ่ายสืบสวนสน.พหลโยธิน ได้มีการแบ่งการทำงานกันเป็นส่วนๆ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบระบบบันทึกข้อมูลคีย์การ์ดผ่านเข้า-ออกภายในศาลอย่างละเอียด พบว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 1 จนถึงเช้าของวันที่ 2 มกราคม โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุในแต่ละจุดเป็นเวลานาน และค่อนข้างใจเย็นในการรื้อค้น ไม่รีบร้อนหรือกลัวถูกจับได้
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ศาลอาญาบางคน หรือบริษัทรักษาความปลอดภัยหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ณรัช กล่าวว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากการสอบสวนเบื้องต้นไม่พบปมความขัดแย้งภายในศาล อีกทั้งพฤติการณ์ของคนร้ายไม่ได้เลือกเจาะจงกระทำการโต๊ะทำงานของบุคคลใดเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมประชุมหารือกับอธิบดีศาลอาญาในช่วง 1-2 วันนี้ หลังศาลอาญาเตรียมตั้งคณะทำงานเพื่อประสานข้อมูลและหลักฐานต่างๆโดยจะมีการทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าวด้วย
