รองปลัดยธ.ถกคดีปล่อยกู้โหด ให้ปปง.สอบอดีตนักการเมืองหญิงโอนเข้าบัญชี’เสี่ยวิชัย’ ห่วงแก๊งกันน็อกทำร้ายลูกหนี้

เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินในคดีแก๊งขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดของประเทศของนายวิชัย ปั้นงาม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่มีมูลค่าความเสียหายจากทรัพย์สินที่อายัดไว้กว่า 150 ล้านบาท โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม คือ พ.ต.ท.ชลภัทร ปานสกุล รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์อาชญกรรมพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตัวแทนจากกองข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า สำหรับการประชุมวันนี้ได้หารือถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับของกลางที่ได้จากการเข้าตรวจค้นและยึดได้นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างไร เพราะพบข้อพิรุธของที่มาทรัพย์สินของกลางจำนวนมาก โดยคณะพนักงานสอบสวนได้มีการแบ่งหน้าที่การตรวจสอบข้อมูลเครือข่าย รวมถึงตรวจสอบบุคคลที่เป็นนายทุนสนับสนุน ที่อยู่นอกเหนือจากนายวิชัย ซึ่งขณะนี้พบ 2-3 คนที่เข้าข่ายเป็นนายทุน โดยหนึ่งในนั้นคืออดีตนักการเมืองหญิงรายหนึ่ง ที่มีการโอนเงิน 46.6 ล้านบาทเข้าไปยังบัญชีของนายวิชัย โดยเราตรวจสอบพบความผิดปกติมาตั้งแต่ 2558 หากพบหลักฐานก็จะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบต่อไป

พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องสงสัยรายอื่นคาดว่าจะยังอยู่ในประเทศไทย และหากตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีความความผิดจริงในฐานฟอกเงิน ทาง ปปง.ก็จะเรียกตัวเข้ามาชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินดังกล่าว หากไม่สามารถชี้แจงได้ก็จะมีความผิดในข้อหาฟอกเงิน สำหรับนายวิชัย พนักงานสอบสวนจะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดีการฟอกเงิน ร่วมกับข้อหาเดิมคือ อั้งยี่ ซ่องโจรฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.เงินกู้ฯ และหากนายวิชัยมีการมอบตัวนั้น ที่ประชุมมีมติว่าจะไม่ให้นายวิชัยได้รับการประกันตัว เพราะคดีดังกล่าวกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ดีเอสไอได้ส่งรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้แล้ว 165 คน จาก 1,000 รายชื่อ ที่มีการคัดกรองเบื้องต้นส่งให้กับสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว หลังจากพบหลักฐานทางการเงิน รายรับรายจ่าย รวมถึงใน 165 คนยังมีกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายร่วมขบวนการในการละเลยการปฏิบัติหน้าที่

พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะต้องคัดกรองรายชื่อของข้าราชการที่เหลือมาตรวจสอบอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีแรงกดดันในการทำงานจากฝ่ายอื่น ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.เป็นของกลางในการกระทำความผิด เช่น จักรยานยนต์ รถยนต์ และ 2.ทรัพย์สินอื่นที่ได้มาจากการฟอกเงิน ก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามถึงการมอบตัวของนายวิชัย พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้กังวลว่าจะได้ตัวนายวิชัยหรือไม่ เพราะได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดอายัดทรัพย์สินหลายรายการแล้ว ซึ่งสามารถทำเรื่องขออายัดตัวจากประเทศกัมพูชา แต่ที่กังวลคือห่วงขบวนการแก๊งหมวกกันน็อกที่อาจจะทำร้ายลูกหนี้กว่า 170,000 คนที่เหลืออยู่ ซึ่งกระทรวงจะต้องเร่งกวาดล้างขบวนการแก๊งหมวกกันน็อกให้เร็วที่สุด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image