เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรบางปะหัน เพื่อร่วมสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ เงินสดเป็นค่าซื้อ-ขายน้ำมันดีเซล จำนวน 212,160 บาท ซึ่งผู้เสียหายคือ นายสุริยะ กิจพิพัฒน์ อายุ 40 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันดั้งเดิมของตำบลบางปะหัน และเป็นธุรกิจในครอบครัวของนายดาบตำรวจ รังสรรค์ กิจพิพัฒน์ อดีตนักการเมืองเมืองถิ่นชื่อดังและอดีตประธานสภา อบจ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นบิดาของนายสุริยะ ผู้เสียหาย
สำหรับผู้ต้องหาประกอบด้วย นาย ธรธรณ์ นวลเพชร อายุ 32 ปี และนายปริญญา คชวงษ์ อายุ 20 ปี ทั้งคู่ถูกจับกุมได้ ในเขตกรุงเทพมหานคร
การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายธรธรณ์ได้ติดต่อปั๊มน้ำมันที่อำเภอบางปะหัน เพื่อขายน้ำมันให้ 12,000 ลิตร ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 1 บาท 30 สตางค์/ลิตร และให้โอนเงินเข้าบัญชีนายปริญญา เสร็จแล้วไม่ได้น้ำมันมาส่งจริง โดยจากการสอบสวนขยายผลพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาแล้ว 16 คดี ในหลายท้องที่ และบางคดีถูกจับกุมแต่มีการเจรจายอมความไปแล้ว
นายธรธรณ์รับสารภาพว่า หลังเรียนจบปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ ก็มาช่วยครอบครัวค้าส่งน้ำมันมาโดยตลอด ช่วงนี้ติดการพนันอย่างหนัก จึงอาศัยช่องทางมาหลอกลวงเจ้าของปั๊มน้ำมันด้วยช่วงนี้ แต่ละปั๊มถูกจำกัดโควต้าสั่งซื้อจากคลังน้ำมันกลาง โดยเฉพาะปั๊มขนาดกลางและเล็ก จะได้รับโควต้าน้อยมาก ทำให้พวกตนเองเห็นช่องโอกาสเข้าไปหลอกลวง
ขณะที่นายปริญญารับสารภาพว่า ตนเองได้รับค่าจ้างในการให้ใช้บัญชีเพื่อโอนเงินเข้าในครั้งนี้จำนวน 30,000 บาท และไม่เคยรู้จักนายธรธรณ์มาก่อน เพิ่งทำเป็นครั้งแรก จากคนกลางซึ่งเป็นคนรู้จักทั้งตนเองและนายธรธรณ์ ซึ่งได้ติดต่อเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของปั๊มน้ำมัน แจ้งว่า ปกติราคาน้ำมันที่มาส่งหรือสั่งจากคลังกลาง จะมีค่าการตลาดให้ ซึ่งต่ำกว่าราคาขายหน้าปั๊มประมาณ 1 บาท/ลิตร แต่ช่วงนี้ถูกจำกัดโควต้าสั่งซื้อเข้า แต่ตนเองนอกจากจะขายน้ำมันหน้าปั๊มแล้ว ยังขายส่งน้ำมันแบบขายส่งอีกทอด ให้แก่กลุ่มธุรกิจรถบรรทุก ทั้งในโรงงานอุตสาหกรรม และตามบ่อดินบ่อทราย ทำให้ต้องการใช้น้ำมันจำนวนมาก เมื่อมีคนมานำเสนอน้ำมันในช่วงที่สั่งซื้อได้ยากอีกทั้งราคาถูกลงไปอีก จึงตกเป็นเหยื่อ และครั้งนี้ก็อาจยอมความหากมีการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น
