เคาะซุกยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด คือ เสพ แต่หากลักลอบขาย มีเม็ดเดียว ก็ถูกดำเนินคดีข้อหาจำหน่าย
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานประชุมหารือการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการครอบครองเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า หากมีไว้ไม่เกิน 5 เม็ด ให้สันนิษฐานว่าครอบครองเพื่อเสพ จากนี้จะเสนอต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการ สธ. ออกเป็นกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีการครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. … และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า การกำหนดไม่เกิน 5 เม็ด อ้างอิงจากเหตุผลทางวิชาการทางการแพทย์ โดยในที่ประชุมมีตัวแทนจากกรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้รายละเอียดองค์ประกอบของตัวยา รวมถึงผลกระทบจากขนาดของยามาประกอบการพิจารณา ขณะเดียวกันมีการรับฟังจากผู้บังคับใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และมิติทางสังคม ว่ากำหนดกี่เม็ดจะกระทบต่อชุมชนหรือการบำบัด
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บังคับบัญชาตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) กล่าวว่า หลักกฎหมายจะแบ่งความผิดเป็น 2 ประเภท คือ 1.ผิดเรื่องของเสพ จะเสพโดยตรงหรือครอบครองเพื่อเสพ และ 2.ความผิดร้ายแรง ได้แก่ ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย และครอบครอง จะมีโทษเท่ากัน หากมีไม่เกิน 5 เม็ดจะสันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพ แต่ถ้าสืบสวนมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่าย แม้จะครอบครอง 1 เม็ดก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาจำหน่าย
แต่มากกว่า 6 เม็ดขึ้นไปก็เป็นความผิดฐานครอบครองยาเสพติดแล้ว จะมีพฤติกรรมการค้าหรือไม่ก็ต้องดูความจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดข้อหาไหน
เมื่อถามว่า มีข้อเรียกร้องให้กำหนดถือครองไม่เกิน 1 เม็ด พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมได้ข้อมูลความรู้หลายเรื่อง ทั้งฤทธิ์ยา ปริมาณยาที่ส่งผลต่อสุขภาพและอาการทางจิต ได้ข้อสรุปแล้วว่า จำนวน 5 เม็ดเป็นปริมาณที่เหมาะสม
