วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.โชคชัย ละมุล รองสารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสีคิ้ว ได้ทำการเข้าตรวจสอบความเสียหายของตู้รับบริจาคโรงพยาบาลสีคิ้ว ที่เป็นตู้พลาสติกใส สูง 30 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร หลังจากถูกคนร้ายเป็นชายทำทีเป็นญาติผู้ป่วยเข้ามาขโมยตู้รับบริจาคที่ตั้งรับบริจาคไว้ที่บริเวณชั้น 2 อาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉิน แล้วนำไปงัดก่อนที่จะทิ้งตู้รับบริจาคไว้ในห้องเก็บของอยู่บนชั้น 3 ของอาคารดังกล่าว ขโมยเงินที่อยู่ในตู้รับบริจาคประมาณ 1 พันบาท หนีไปอย่างลอยนวล
โดยจากการตรวจสอบพบว่าในอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉินนั้น ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ขณะประกอบเหตุยกตู้รับบริจาค โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.พ.59 เวลาประมาณ 20.10 น.คนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 35-40 ปี สูงประมาณ 160 เซนติเมตร รูปร่างท้วม ผิวคล้ำ ผมสั้นหยักศก สวมเสื้อลายพรางทหาร สวมกางเกงขาสั้น สวมรองเท้าฟองน้ำสีเหลือง ทำทีเดินวนไปวนมาในอาคารผู้ป่วยนอก ก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 แล้วเดินเข้าไปยกตู้รับบริจาคของโรงพยาบาลที่วางไว้บริเวณมุมเสา แล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 3 ของอาคาร โดยในจังหวะที่คนร้ายได้ยกตู้บริจาคผ่านพ้นมุมกล้องวงจรปิด ได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลออกมา ทำให้คนร้ายนั้นต้องเอาตู้บริจาคที่ขโมยมาวางไว้ที่บริเวณขั้นพักบันไดชั้น 2 กับชั้น 3 ก่อนที่จะเดินลงมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ แล้วก็เดินออกไป
แต่หลังจากนั้นประมาณ 40 นาที คนร้ายได้ย้อนกลับมาที่อาคารเดิม แต่ในครั้งนี้คนร้ายได้ขึ้นลิฟต์มายังชั้น 3 เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ทำงานอยู่ชั้น 2 โดยคนร้ายนั้นได้เดินลงบันไดไปขั้นพักบันไดของชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้วางตู้บริจาคไว้ ก่อนที่จะอุ้มตู้รับบริจาคเข้ามาในห้องเก็บของที่ชั้น 3 แล้วงัดขโมยเงินที่อยู่ในตู้ออกไป ก่อนที่คนร้ายจะลงลิฟต์แล้วเดินออกไปอย่างลอยนวล
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่พบคนร้าย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองได้นั่งทำงานอยู่ภายในห้องที่บริเวณชั้นของอาคารผู้ป่วยนอก โดยในจังหวะที่ตนเองกำลังจะเอาขยะออกมาทิ้ง ก็พบว่ามีคนเดินขึ้นไปที่บริเวณชั้น 3 ของอาคาร แต่ตนเองไม่เห็นตู้บริจาคของโรงพยาบาล ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงคิดว่าเป็นญาติผู้ป่วยที่มานอนรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงบอกกับคนร้ายว่า อาคารนี้ไม่มีผู้ป่วยนอนรักษาตัว หากจะมาเยี่ยมผู้ป่วยให้ไปเยี่ยมที่ตึกเก่า โดยหลังจากนั้นคนร้ายก็เดินลงบันไดออกไป ตนจึงกลับเข้าไปทำงานตามปกติ จนกระทั่งช่วงเช้าจึงพบว่าตู้รับบริจาคที่วางไว้ที่บริเวณมุมเสาที่ชั้น 2 นั้นหายไป จึงแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบ และเมื่อมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่าคนที่ตนเองคิดว่าเป็นญาติผู้ป่วยนั้นเป็นคนร้ายที่มาขโมยตู้รับบริจาคของโรงพยาบาลไป
ด้านพ.ต.ท.วิรัตน์ ทัศนะนิยม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสีคิ้ว ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้เข้ามาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดวิทยาการเข้ามาทำการเก็บรายนิ้วมือแฝงเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนั้นดำเนินการติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ข้างเคียงเพื่อติดตามคนร้ายว่าใช้ยานพาหนะอะไรในการเข้ามาประกอบเหตุ พร้อมทั้งจะนำภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแจ้งจ่ายในทุกพื้นที่เพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.ท.วิรัตน์กล่าว
