บช.น. ย้ำ ผู้ประกอบการ ห้ามอายุต่ำกว่า 20 ปี พกปืน ยาเสพติด เข้าใช้บริการ พร้อมคุมเข้มจับกุมคนทำผิด

บช.น.เตรียมมาตรการป้องกันชี้แจงเน้นย้ำผู้ประกอบการห้ามอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้ พกอาวุธปืน นำยาเสพติดเข้าใช้บริการ เน้นย้ำ ตร.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบจับกุมการกระทำผิดกฎหมายเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น.ปรท.ผบช.น. ลงนามคำสั่งวิทยุในราชการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ความเร่งด่วน ด่วนที่สุด อ้างถึง กฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2566 ลงวันที่ 7 ธ.ค.66

เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย จัดการจราจรและอำนวยความสะดวกประชาชนในพื้นที่ กทม.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บก.น.1-9 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงทำความเข้าใจบุคคล 3 กลุ่ม ดำเนินการตามกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ

1.ผู้ประกอบการจัดพนักงานตรวจสอบบัตรประชาชนผู้ใช้บริการ โดยไม่ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ สถานบริการไม่เปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด (เวลา 04.00 น.) สถานบริการต้องตรวจสอบไม่ให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติด เข้าไปในสถานบริการ สถานบริการต้องไม่ให้มีการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานบริการ ต้องไม่ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันอันเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการพนันในการสถานบริการ

Advertisement

สถานบริการต้องไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทางเสียงแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงสถานบริการ จัดให้มีมาตรการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ เช่น บริการเรียกรถสาธารณะสำหรับผู้ที่มีอาการมึนเมา รวมถึงแนะนำสถานที่พักแรมบริเวณใกล้เคียง กรณีเกิดเหตุร้าย หรือเหตุผิดกฎหมาย ให้แจ้งเหตุไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่

2.ประชาชนผู้ใช้บริการ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปที่จะเข้าไปใช้บริการในสถานบริการต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และมีเอกสารราชการที่มีภาพถ่ายและระบุอายุไว้ติดตัวไปด้วย ไม่นำอาวุธและยาเสพติดเข้าไปในสถานบริการ ไม่ขับขี่ยานพาหนะชนิดต่างๆ ภายหลังจากการดื่มสุรา

3.เจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมบูรณาการกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบสถานบริการ ให้ดำเนินการเปิด-ปิด รวมถึงตรวจสอบใบอนุญาตสถานบริการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด กรณีตรวจพบความผิดตามกฎหมายอื่น หรือสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ให้มีการบูรณาการประสานร่วมกันในการตรวจค้นจับกุมเพื่อบังคับใช้ให้เป็นไปตามกฎหมาย

Advertisement

ด้านกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ปรับแผนการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีสถานบริการหนาแน่นเพื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ และปรับห้วงเวลาการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้สอดคล้องกับเวลาปิดของสถานบริการ 04.00 น. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไม่ขับขี่ยานพาหนะหลังจากดื่มสุรา ส่วนกองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมบูรณาการกับฝ่ายปกครอง ตรวจสอบสถานบริการให้ดำเนินการเปิด-ปิด รวมถึงการตรวจสอบสถานบริการตามที่ได้รับการประสาน

กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) จัดแผนการตรวจสถานบริการ โดยร่วมบูรณาการกับสถานีตำรวจท้องที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.อก.บช.น.) สนับสนุนภารกิจในฐานะฝ่ายอำนวยการตามที่ได้รับมอบหมาย

กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมบูรณาการกับสถานีตำรวจท้องที่ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเกิดเหตุสำคัญ หรือเหตุอุกฉกรรจ์ ให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้วรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปก.น.) และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) จึงแจ้งมาเพื่อทราบ และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image