ตร.เครียดใช้ .38 ยิงตัวตายหน้าบ้านคาชุดยูนิฟอร์ม จนท.ยังไม่รู้เหตุจูงใจฆ่าตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานวา เมื่อเวลา 07.50 น.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ปรากรณ์ จันทร์แก้ว พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งจากวิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุยิงตัวตายที่บ้านป่าเส้า หมู่ 9 ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน ซึ่งเป็นตำรวจสถานีภูธรบ้านธิ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับแจ้งนิติเวช รพ.ลำพูน ร่วมปฏิบัติหน้าที่ โดยมีพล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน เดินทางมาดูเหตุการณ์และอำนวยการด้วยตนเอง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณถนนเลียบทางรถไฟ บ้านป่าเส้า ต.อุโมงค์ หน้าบ้านเลขที่ 255/5 ม.9 ต.อุโมงค์ พบศพ ร.ต.ต.บุญส่ง อาจหาญศรี รอง สวป.สภ.บ้านธิ อายุ 55 ปี สวมชุดเครื่องแบบตำรวจ นอนตายจมกองเลือด มีปืนพกประจำกาย ขนาด .38 ตกอยู่ข้างลำตัวผู้ตาย มีกระสุนในรังเพลิง 5 นัด และถูกยิงไป 1 นัด ในสภาพนอนคว่ำหน้าเลือดไหลนองพื้น จึงกันพื้นที่ไม่ให้คนเข้าออกโดยเฉพาะคนมามุงดูนับ 200 คน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเดินทางไปทำงาน จากการตรวจสภาพศพ ร.ต.ต.บุญส่ง ของตร.พิสูจน์หลักฐานพบว่า ร.ต.ต.บุญส่ง ใช้อาวุธปืนยิงตนเองด้วยมือซ้าย โดยจ่อยิงเข้าที่ขมับซ้าย กระสุนทะลุขมับขวาเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

ด้านนางผ่องพรรณ อาจหาญศรี อายุ 55 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า สามีตนเอง คือ ร.ต.ต.บุญส่ง ช่วงหลังมานี้บ่นว่าเครียด แต่ตนเองถามว่าเรื่องอะไรก็ไม่พูด เพราะเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายโรคเช่นกัน ทั้งเบาหวาน ความดัน ต้องไปหาหมอและกินยาบ่อยๆ ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้เห็นสามีแปลกๆ ไปจากทุกวัน ที่ก่อนไปทำงานจะไม่รัดเข็มขัดที่มีซองปืนพกคาดเอวจะเหน็บไว้หน้ารถ แต่วันนี้กลับคาดไว้ตั้งแต่เช้า ก่อนไปทำงานตนก็คุยกันปกติ ส่วนสามีก็เดินวนไปมาหน้าบ้านไม่ยอมไปทำงานซึ่งปกติจะเปิดประตูบ้านแล้วออกไป ตนจึงไปล้างจานหลังบ้าน แต่กลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดจึงวิ่งจากครัวออกมาดูพบสามีใช้อาวุธปืนยิงตัวตายอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ปรากรณ์ จันทร์แก้ว พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำพูน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นการยิงตัวตาย ส่วนการสอบสวนถึงสาเหตุการตายนั้นต้องกระทำโดยละเอียดอีกครั้งว่าผู้ตายเครียดหรือมีเหตุจูงใจใดที่กระทำ ซึ่งวันนี้จะได้มอบให้นิติเวชนำไปตรวจพิสูจน์ที่แผนกนิติเวช รพ.ลำพูน แล้วจึงมอบให้ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image