ฝากขัง ‘ร.ต.ท.’ พรุ่งนี้ แล้วให้ออกจากราชการไว้ก่อน

จากกรณี ร.ต.ท.ณรงค์วัส ทะชาดา หรือนัท รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ก่อเหตุยิง นายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจ เสียชีวิตด้วยปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 นัด บนทางพิเศษ (ด่วน) ฉลองรัช กม.10 ช่วงใกล้แยกประชาธรรม แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาของวันที่ 30 ธันวาคม ต่อมาชุดสืบนครบาลและสืบ บก.น.4 สืบ สน.วังทองหลาง นำกำลังมาปิดล้อมบริเวณห้องพักรายวัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. กระทั่ง ร.ต.ท.ณรงค์วัสออกมาจากห้องพัก จึงนำตัวและได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุดังกล่าวได้บริเวณดังกล่าวเมื่อเวลา 05.20 น.ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 30 ธันวาคม ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (กก.สส.บก.น.4) หลังจากการสอบปากคำ พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา รับว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ตาย ส่วนมูลเหตุจูงใจขอสงวนในสำนวนการสอบสวน ด้านผู้ต้องหารู้จักกับผู้ตายตั้งแต่ประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะผู้ตายได้มีการมาแจ้งความที่ สน.หัวหมาก เกี่ยวกับธุรกิจของตนถูกฉ้อโกง

ส่วนเหตุผลที่ผู้ต้องหาย้อนกลับมายิงผู้ตายนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าได้ทำโทรศัพท์ตกอยู่บริเวณนั้นเลยวกกลับมาเอา แต่เห็นว่าผู้ตายยังไม่เสียชีวิตจึงได้ทำการยิงซ้ำไปอีกหนึ่งนัด โดยข้อหาที่ผู้ต้องหาโดนนั้นคือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพาอาวุธเข้าไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหามีการขอให้ผู้ตายช่วยเรื่องหนี้สินและวิ่งเต้นตำแหน่งนั้น ด้าน พล.ต.ต.ธนันท์ธรกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะในขณะนี้ผู้ต้องหาจะให้การอะไรก็ได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถพูดได้ เพราะอาจทำให้รูปคดีเสียหาย แต่ผู้ต้องหาให้การว่าผู้เสียชีวิตได้ชักชวนให้ผู้ต้องหามาทำงานพิเศษเป็นคนขับรถส่วนตัว และรักษาความปลอดภัย ซึ่งแลกกับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อกรณีดังกล่าว เพราะเป็นเงินจำนวนค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าส่วนตัวมีปัญหาเรื่องหนี้สินในระบบจำนวน 2 ล้านบาท จากการไปกู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ แต่รายละเอียดดังกล่าวอยู่ระหว่างสอบปากคำ ทั้งนี้ ต้องรอผลสรุปการรวบพยานหลักฐาน ให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

Advertisement

พล.ต.ต.ธนันท์ธรยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ผู้ต้องหามีความเครียดแน่นอน ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาเดินทางไปบ้านภรรยาเนื่องจากเห็นรถนั้น ขอสงวนไว้ก่อนเพราะอยู่ในสำนวน ส่วนรถยนต์ที่ก่อเหตุนั้นให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรถที่อยู่ในที่เกิดเหตุและทำการตรวจสอบภายในรถอยู่

ส่วนในเรื่องที่มีการทำพาสปอร์ตเพื่อเตรียมการหนีหรือไม่ ต้องทำการพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ ทั้งนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อควบคุมตัวฝากขังที่ศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.) ภายหลังจากนี้ บก.น.4 จะดำเนินการทำเรื่องออกจากราชการไว้ก่อนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image