ชุดปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส จับกุมผู้ลักลอบขายน้ำต้มใบกระท่อม ผสมยาแก้ไอ-กัญชา

ชุดปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส จับกุมผู้ลักลอบขายน้ำต้มใบกระท่อม ผสมยาแก้ไอ-กัญชา

ชุดปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส จับกุมผู้ลักลอบขายน้ำต้มใบกระท่อมผสมยาแก้ไอและกัญชา สนองนโยบาย มท.1 มุ่งจัดระเบียบสังคม เพื่อความผาสุกของสังคม

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาส นำโดย นายสุวิทย์ นาคเป้า ป้องกันจังหวัดนราธิวาส, นายสุชาติ กิจการ ปลัดอำเภองานป้องกันอำเภอสุไหงโก-ลก และนายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส (ศอ.ปส.จ.นธ.) นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน สังกัด ศอ.ปส.จ.นธ. ตรวจสอบการกระทำผิดของสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จำหน่ายน้ำกระท่อมและใบกระท่อม บริเวณถนนทรายทอง 3 (ดงงูเห่า) ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งพบจำนวน 2 ร้าน ได้แก่ ร้านบังเดี่ยว และร้านเวลาดึก ชุดปฏิบัติการฯจึงดำเนินการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล กล่าวอีกว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษของจังหวัดนราธิวาสได้ดำเนินการจัดระเบียบสังคม โดยตรวจสอบร้านขายใบกระท่อมบริเวณถนนทรายทอง 3 (ดงงูเห่า) ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 2 ร้าน ได้แก่ 1.ร้านบังเดี่ยว โดยมี น.ส.โสรายา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน พร้อมของกลางจำนวน 4 รายการ ได้แก่ 1.น้ำต้มพืชกระท่อม จำนวน 3 ขวด 2.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม ยี่ห้อ DATISSIN จำนวน 3 ขวด 3.กัญชาอัดแท่ง จำนวน 7 ห่อ และ 4.กัญชาแปรรูปพร้อมสูบ จำนวน 19 มวน

Advertisement

โดยของกลางลำดับที่ 1 ถูกพบใส่ไว้ในลังน้ำแข็งหน้าร้าน ของกลางลำดับที่ 2 ถูกพบวางอยู่บนเคาน์เตอร์ และของกลางลำดับที่ 3-4 ถูกพบซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ประสานนางสุภวรรณ นุ่นจันทร์ เภสัชกรชำนาญการ สนง.สสจ.นธ เข้าตรวจสอบของกลาง และใบอนุญาตขายยาของผู้ถูกจับกุม เมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่าของกลางดังกล่าวเป็นยาแผนปัจจุบันจริง และผู้ถูกจับกุมไม่มีใบอนุญาตให้ขายยาแผนปัจจุบัน อีกทั้งไม่มีใบอนุญาตขายกัญชาอีกด้วย

จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า 1.มียาแผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นยาอันตรายไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร (น้ำต้มใบกระท่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต 3.จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และร้านเวลาดึก มีนายศุภกิจ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี และนายธนพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน พร้อมของกลาง 11 รายการ ได้แก่ 1.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อ IWADIL จำนวน 2 ขวด 2.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อ Finadrill จำนวน 1 ขวด 3.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อ Benz Expertorant จำนวน 5 ขวด 4.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อ DATISSIN จำนวน 5 ขวด 5.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อ DATISSIN แยกใส่ถุงพลาสติก จำนวน 2 ถุง 6.ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อ Allergin จำนวน 9 ขวด 7.น้ำต้มพืชกระท่อม จำนวน 288 ขวด 8.กัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 3 กิโลกรัม 1 ขีด 9.กัญชาอัดแท่งห่อเล็ก จำนวน 50 ห่อ 10.กัญชาต่างประเทศ น้ำหนัก 1 ขีด 11. กัญชาดอกช่อ จำนวน 5 ห่อ

โดยของกลางลำดับที่ 1-3 พบอยู่ในถังขยะใต้เคาน์เตอร์ภายในร้าน ของกลางลำดับที่ 4-5 พบอยู่บนเคาน์เตอร์ภายในร้าน ของกลางลำดับที่ 6 อยู่บนชั้นวางของเหนือเคาน์เตอร์ ของกลางลำดับที่ 7 ถูกพบอยู่ใน 3 แห่ง คือ ในห้องน้ำ/ในลังน้ำแข็งหลังบ้าน/ลังใต้เคาน์เตอร์ ของกลางลำดับที่ 8 พบใส่ในถุงดำซุกซ่อนในตะกร้าหน้าห้องนอน ของกลางลำดับที่ 9 พบบนชั้นวางของเหนือเคาน์เตอร์ และของกลางลำดับที่ 10-11 พบในลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์ เมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ของกลางดังกล่าวเป็นยาแผนปัจจุบันจริง และผู้ถูกจับกุมไม่มีใบอนุญาตให้ขายยาแผนปัจจุบัน

Advertisement

อีกทั้งผู้ถูกจับกุมไม่มีใบอนุญาตขายกัญชาอีกด้วย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า 1.ร่วมกันมียาแผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นยาอันตรายไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร (น้ำต้มใบกระท่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เชิญผู้ถูกจับทั้ง 3 ราย ไปยังหอประชุม อ.สุไหงโก-ลก เพื่อทำบันทึกจับกุม โดยผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ที่มาของปฏิบัติการในครั้งนี้ เกิดจากการที่จังหวัดนราธิวาสได้ตั้งคณะทำงานจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการจังหวัดนราธิวาส โดยในคณะทำงานชุดนี้ได้มีการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ นำกำลังร่วมกันปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยทางจังหวัดร่วมกันกำหนดกลไกการดำเนินงาน และจัดตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการติดตาม สอบสวน จับกุม และดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำความผิด

“จังหวัดนราธิวาสมุ่งมั่นในการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง โดยขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และร่วมเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ให้บ้านเมืองของเรามีแต่สิ่งที่ดี ด้วยการช่วยกันระแวดระวังบ้านเมืองของเรา ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกคุ้มครองและปกปิดเป็นความลับ ป้องกันไม่ให้พลเมืองดีต้องได้รับภัยจากการร่วมกันจรรโลงสิ่งที่ดีให้กับสังคม” ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล กล่าวในช่วงท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image