เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางกาญจนา มากเหมือน อายุ 69 ปี เจ้าของอู่ N.P.การาจ เดินทาง เข้าร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ. วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร ผบ. สำนักคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายหลังปรากฎว่า มีชื่อในเอกสารการยื่นคำขอต่อกรมสรรพาสามิต และรับมอบอำนาจ การยื่นขอจดทะเบียน กับกรมการขนส่งทางบก
โดยนางกาญจนา ระบุว่าถูกปลอมรายมือชื่อ ลายมือในแบบคำขอโอนและรับโอนของกรมการขนส่งทางบก (โอนลอย) ไปยังพระผู้ใหญ่ และการยื่นขอชำระภาษีสรรพามิต เพื่อจดประกอบ
ทั้งนี้นางกาญจนา ยังระบุ อู่ของตนรับงานเคาะพ่นสีเท่านั้น ไม่ได้เป็นโรรงานประกอบรถยนต์. หรือดำเนินการจดประกอบรถแต่อย่างใด
นางกาญจนา ยังระบุว่า ไม่เคยประกอบหรือเคยเห็นรถเบนซ์ คันดังกล่าว ไม่รู้จักกับนายวิชาญ รู้จักเพียงนายชลัช ที่เคยให้ตนไปยื่นแบบคำร้องเพื่อดำเนินกิจการประกอบรถยนต์กับ กรมสรรพสามิต เท่านั้นซึ่งก็ยื่นเรื่อวในแบบฟอร์ม ไว้เฉย แต่ไม่เคยประกอบรถยนต์ และไม่เคยพบนายชลัช หลายปีแล้ว ทราบแต่เพียงว่านายชลัช รับดำเนินการเกี่ยวกับการต่อทะเบียนรถ
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า วันนี้นางกาญจนา เป็นผู้เสียหาย มาร้องทุกข์ดีเอสไอ ซึ่ง จะดำเนินการสอบปากคำ ในส่วนนี้ว่ามีกลุ่มบุคคลใดไปยื่นเรื่อง แทนนางกาญจนา โดยตัวละครเหล่านี้ต้องมีตัวตน ชัดเจน สำหรับนายชลัช ดีเอสไอกำลังติดต่อขอให้มาเข้าให้การกับดีเอสไอ
