เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง กรมศุลกากร เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย รองอธิบดีรักษาการที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี พร้อมด้วยนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงจับกุมสินค้าต้องห้ามและหลีกเลี่ยงหนีศุลกากร ประเภทรถยนต์เก่า ตัวถังรถยนต์เก่า มอเตอร์ไซค์เก่า สินค้าเกษตร ไวน์ต่างประเทศ แผงโซลาร์เซลล์ และสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
นายวิจักษณ์กล่าวว่า กรมศุลกากรได้เร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามข้อจำกัด จึงได้วางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามสินค้าลักลอบและหลีกเลี่ยงหนีศุลกากร สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าที่เป็นภัยต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้จับกุมสินค้า ดังนี้ 1.รถยนต์ส่วนบุคคลเก่าใช้แล้ว ยี่ห้อนิสสัน รุ่น คิวบ์ จำนวน 4 คัน มูลค่า 3 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ฝ่ายบริการศุลกากรที่ 3 ลาดกระบัง ซึ่งมีการนำเข้ามาโดยไม่มีใบอนุญาตเป็นการหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัดอันเป็นความผิดตามมาตรา 99 และ 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16 และ 17 พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า พ.ศ.2522
2.รถยนต์เก่ายี่ห้อ Citroen รุ่น 2CV จำนวน 1 คัน มูลค่า 1 ล้านบาท และไวน์ต่างประเทศ จำนวน 5,183 ขวด มูลค่า 9 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ฝ่ายบริการศุลกากรที่ 7 ลาดกระบัง ซึ่งได้สำแดงชนิดสินค้า ปริมาณ ประเภทพิกัด และอัตราอากรเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 99 และ 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16 และ 17 พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และ พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า พ.ศ.2522
3.รถยนต์เก่าใช้แล้ว ยี่ห้อนิสสัน รุ่น สกายไลน์ จำนวน 3 คัน ตัวถังรถยนต์เก่าใช้แล้ว ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 4 โครง และรถจักรยานยนต์เก่าใช้แล้ว ขนาด 50 CC จำนวน 8 คัน รวมมูลค่า 2 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ฝ่ายบริการศุลกากรที่ 3 ลาดกระบัง ในความผิดกรณีนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้ตัวถังของรถยนต์นั่งที่ใช้แล้ว และโครงรถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555
4.เมล็ดพริกแห้งบด จำนวน 46 ตัน มูลค่า 4 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ฝ่ายบริการศุลกากรที่ 3 ลาดกระบัง โดยสำแดงเป็นผ้าม่าน มีเจตนาแก้ไขรายละเอียดชนิดสินค้า และเจตนาสำแดงเอกสารเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามข้อจำกัด เป็นเหตุให้อากรขาด อันเป็นความผิดตามมาตรา 99 และ 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16 และ 17 พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2551
5.ชุดแผงโซลาร์เซลล์ จำนวน 1,680 ชุด มูลค่า 10 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ฝ่ายบริการศุลกากรที่ 4 ลาดกระบัง โดยสำแดงเมืองกำเนิดสินค้าเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 99 และ 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16 และ 17 พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และ พ.ร.บ.ห้ามนำของที่มีการแสดงกำเนิดเป็นเท็จเข้ามา พ.ศ.2481
6.ของเล่นเด็กละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 3,840 กล่อง มูลค่า 1,500,000 บาท โดยจับกุมได้ที่ฝ่ายบริการศุลกากรที่ 2 ลาดกระบัง มีความผิดกรณีนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 99 และ 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16 และ 17 พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
นายวิจักษณ์กล่าวต่อว่า มูลค่าของกลางที่จับกุมได้ทั้งสิ้น รวมจำนวน 30,500,000 บาท นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559-มกราคม 2560 สำนักศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง มีสถิติจับกุมการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องรวม 688 ราย
