รอดนอนคุก! ครูปรีชา ชูสองนิ้วยิ้มสู้ ศาลให้ประกันตัว หลังยื่นหลักทรัพย์ 7.5 หมื่น
กรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีหมายเลขดำที่ อ.2512/2562 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2461/2564 ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุก ครูปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 3 ปี แต่เนื่องจาก ครูปรีชา ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นศาล จึงลดโทษจำคุกเหลือ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วน นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ จำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ครูปรีชา ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ทนายของ ครูปรีชา จึงได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว โดยได้เช่าหลักทรัพย์จากบริษัทแห่งหนึ่งในวงเงิน 75,000 บาท ในการยื่นขอประกันตัว
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ศาลได้พิจารณาให้ ครูปรีชา ประกันตัวออกไปได้ ทำให้ ครูปรีชา ไม่ต้องไปอยู่ในเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี
และหลังจากนี้ ครูปรีชา จะได้ร่างหนังสือเพื่อยื่นในชั้นอุทธรณ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากครบ 30 วันแล้วยังไม่แล้วเสร็จ สามารถขอขยายเวลาออกไปได้อีก 45 วัน คาดว่ากว่าศาลอุทธรณ์จะนัดฟังคำพิพากษาต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี
ครูปรีชา เปิดเผยภายหลังจากได้ประกันตัวออกมาสู้คดีว่า “การที่เราพิสูจน์สิทธิของเราตามกฎหมาย ตนก็มีความเชื่อโดยสุจริตมาตลอดว่าลอตเตอรี่เป็นของตน โดยไม่ได้ไปก้าวล่วงอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม และใช้สิทธิตามกฎหมายกันต่อไป”
ครูปรีชา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ไม่ได้เสียกำลังใจ เพราะการที่เรามีคดีความ เราก็ต้องเตรียมเรื่องของพยานหลักฐานของเราอยู่แล้ว นั่นคือพยานหลักฐานของเราก้าวไม่ถึง ยังไม่พอ อย่างที่นำเรียนให้ทราบแล้วว่าพยานหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานของตน ซึ่งเป็นพยานสำคัญหายไปจากโต๊ะพนักงานสอบสวนก่อนที่เรื่องจะถึงศาล ตอนนี้ตนกำลังทำเรื่องติดตามและแจ้งความอยู่ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนคนแรกที่ทำซองพลาสติกที่ใส่ลอตเตอรี่หาย และกล้องวงจรปิดก็ยืนยันว่ามี แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ตอนนี้กำลังทำเรื่องตามหาอยู่ เพื่อพิสูจน์ว่าตนไปตลาดเรดซิตี้จริง แต่ก็ไม่ได้ไปก้าวล่วงใคร เพียงแต่ต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย
ครูปรีชา กล่าวต่อว่า โดยศาลให้ยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ซึ่งในประเด็นนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับทางทนายความของตน ความจริงก็คือความจริง เราต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย ในการพิสูจน์ทรัพย์ของเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในกระบวนการพิสูจน์ถ้าหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานสำคัญของเราหายไปในชั้นพนักงานสอบสวนเราจะพิสูจน์ได้อย่างไร
ครูปรีชา กล่าวต่อว่า ฉะนั้นจึงอยากฝากผู้มีอำนาจและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีของตนไว้ด้วย ซึ่งตนไม่ได้ก้าวล่วงอะไร เพียงแต่ใช้สิทธิตามกฎหมาย แต่สิทธิที่ตนใช้สิทธิมาสามศาลนั้น เนื่องจากพยานหลักฐานสำคัญแห่งคดีนั้นคือกล้องวงจรปิด ซึ่งในสำนวนระบุว่ามีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้ส่งไปให้พนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว รวมถึงซองพลาสติกที่ใส่ลอตเตอรี่ ซึ่งตนก็ยืนยันเสมอว่าจับแค่ซองพลาสติก แต่ซองพลาสติกหายไปจากโต๊ะพนักงานสอบสวน ตั้งแต่ปี 2560 เหตุเกิดที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ปัจจุบันยังไม่ได้มีการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีเลย ซึ่งสำนวนก็มี ตนกำลังติดตามเรื่องนี้อยู่เพราะมันเป็นพยานสำคัญและเป็นประจักษ์พยานที่ยืนยันได้ว่าตนไปซื้อลอตเตอรี่นั่นคือก่อนที่จะขึ้นศาล
ครูปรีชา กล่าวต่อว่า ส่วนทางพนักงานสอบสวนรายนี้ตนก็ได้แจ้งความไว้แล้ว แต่เราต้องใช้สิทธิต่อไป และตนก็ยังยืนยันเสมอว่า “ความจริงก็คือความจริง”