นายกฯ ปัด ไม่ยุ่งเรื่องของ 2 บิ๊กตร.ใหญ่ เดินหน้าทำเรื่องอื่น ‘บิ๊กต่าย’ ขอก้มหน้าทำงานต่อ หลัง ‘ทนายตั้ม’ ออกมาแฉเส้นเงินถึงญาติ ‘บิ๊กต่อ’ พร้อมรับเรื่องดำเนินการตรวจสอบ
วันที่ 26 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดโปงถึง 3 หน่วยงานรับส่วยโดยเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ว่า ยังไม่ได้ยินเรื่องดังกล่าว เพียงขอให้การดำเนินคดีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไม่มีการแทรกแซงโดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งก็ได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวต่อไป เรื่องนี้จะไม่ยุ่งแล้ว
ส่วนเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยกเลิกการเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศอังกฤษ เนื่องจากอ้างว่ามีงานจากนายกฯ หลายเรื่อง นายเศรษฐากล่าวว่า ตนจำไม่ได้ว่างานอะไรบ้าง แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์สามารถเลือกได้อยู่แล้วว่าจะทำงานหรือลาราชการ เรื่องพวกนี้มีการยกเลิกหรือขอใหม่ได้อยู่แล้วตามกฎราชการ
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ข้อมูลที่นายษิทรานำมาเปิดเผยนั้น ขอรอรับรายงานอย่างเป็นทางการก่อน หากมีการนำข้อมูลดังกล่าวมามอบก็จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่เคยทราบมาก่อนยังไม่ได้ติดต่อไปสอบถาม ผบช.สอท.หรือไซเบอร์ หรือผู้บังคับการแต่ละหน่วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายษิทราจะนำข้อมูลดังกล่าวไปให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เพื่อตรวจสอบจะมีการดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ใครพูดอะไรหรือทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบตัวเองด้วยหากไปกระทบถึงบุคคลที่ 3 เขาก็มีสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้ โดยเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างบุคคลซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงานอะไร อีกอย่างหนึ่งข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ ดังนั้นเเล้ว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็คงรับทราบและใช้สิทธิตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่านายษิทรายังกล่าวอ้างว่ามีบุคคลระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในปัจจุบันสั่งการให้ผู้กำกับโทรไปเจรจาเนื่องจากมีบุคคลระดับสูงใน ตร.เกี่ยวข้องใช่หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ไม่ใช่ตนแน่นอนไม่เคยติดต่อหรือใช้ใครเลย ก้มหน้าทำงานอย่างเดียว
ส่วนภาพลักษณ์ของตำรวจที่ประชาชนไม่ให้ความศรัทธานั้นมองว่าเป็นมุมมองของแต่ละคนอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเพื่อให้องค์กรเดินไปข้างหน้าได้ ส่วนตัวก็จะพัฒนาด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐย้ำว่า การที่นายษิทราจะมอบหลักฐานให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหรือไม่ ต้องรอดูและตรวจสอบความชัดเจนก่อน หากจะนำมายื่นให้ตน มองว่า ตร. มีหน่วยงานรับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่แล้วมีขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบรับเรื่องหากมีคนมาร้องเรียนไม่ว่าใครก็ยินดีน้อมรับและให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ส่วนจะให้น้ำหนักข้อมูลที่นายษิทราออกมาแฉหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ยืนยันไม่กังวลใจ
