เปิดพฤติการณ์ รองผอ.-คู่ขาเกย์ ลวงข้าราชการมั่วยา-เซ็กซ์ สูบเงินล้าน อึ้งหนังโป๊6TB-ไวอากร้าอื้อ

พีคทุกตอน! เปิดพฤติการณ์ ‘เจ๊เก่ง’ รองผอ.ค้ายา โรงเรียนดัง ผนึก ‘เกย์ท็อป’ โปรไฟล์ดี จบวิศวะ แต่ชีวิตดิ่งเพราะติดยา เจอคุกซ้ำๆ จนต้องหนีหมายจับ ร่วมมือปลอมเป็นหมอ รพ.ดัง ลวงแพทย์เสพยามั่วกามสนั่น อึ้งของกลาง หนังโป๊ชายรักชาย6TB-ไวอากร้า-ถุงยาง-ยาเสพ อื้อ

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เรียกว่าเป็นคดีเขย่าวงการข้าราชการ 2 สายงานทั้ง ครู และแพทย์ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม นายเศรษฐยศ หรือ “เจ๊เก่ง” รองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังย่านปากเกร็ด อายุ 42 ปี หัวหน้าแก๊งค้ายาระดับหัวจ่าย และนายกฤตฌาน์พัฒน์ หรือเกย์ท็อป อายุ 37 ปี ชาวบางเขน จ.กรุงเทพฯ ลูกสมุนเอก ทำหน้าที่อ้างตัวเป็น หมอตำรวจอายุรกรรมโรคหัวใจ ลวงข้าราชการวงการแพทย์ LGTBQ+ มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง หลอกล่อให้เสพยาเสพติด จนตกเป็นเหยื่อสิ้นเนื้อประดาตัว

อ่านข่าว – ฉาว! จับ ‘เจ๊เก่ง’ รองผอ.โรงเรียนดัง ร่วมมือแก๊งเกย์ ลวงแพทย์เล่นยา-มั่วเซ็กซ์ จนหมดตัว

ซึ่งพฤติการณ์ของคดีดังกล่าว ซึ่งเรียกได้ว่า “พีคทุกตอน” ดังนี้

Advertisement

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกไปจับกุม เจ๊เก่ง และนายท็อป ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านรัตนาธิเบศร์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่มั่วสุมยาเสพติดและมั่วเซ็กซ์ของเหล่าข้าราชการเกย์

โดยพบของกลาง คือทั้ง ยาไอซ์ ใส่ถุงเตรียมแบ่งขาย, คีตามีน, เงินสด, สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม (พบเงินหมุนเวียน 1.3 ล้านบาทใน 3 เดือนที่ผ่านมา), ถุงยางอนามัย จำนวน 200 ชิ้น, เจลหล่อลื่นบรรจุซอง จำนวน 100 ซอง, ไวอาก้า จำนวน 50 ซอง, เข็มฉีดยาพร้อมสายยังรัด จำนวน 100 เข็ม, Eternal Drive จำนวน 6 อัน บรรจุหนังลามกประเภทชายรักชาย รวม 6 TB และอุปกรณ์การเสพยาเสพติดและเครื่องชั่งอีกหลายรายการ

Advertisement

 

ทั้งนี้ สืบนครบาล เผยถึงจุดเริ่มต้นของ คู่หูคู่นี้ว่า มีเหยื่อรายหนึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ถูก นายท็อป ที่อ้างตัวเป็นแพทย์ตำรวจ รพ.ดับ สร้างสัมพันธ์ลึกซึ้ง แล้วหลอกล่อให้เสพยา จนติด โดยอ้างว่าเป็น “ยาบำรุง” กระทั่งติดงอมแงม และตกเป็นทาสกามจนถอนตัวไม่ขึ้น ระหว่างนั้นยังถูกหลอกให้ถ่ายคลิปลับ และถลุงเงินไปหลายล้านเพื่อแลกยา จนเหยื่อแทบหมดตัว จึงเข้าแจ้งความ

และทางตำรวจได้ติดตามขยายผล จนพบว่า นายท็อป เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายในคดีค้ายาเสพติด และส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปในวงการ LGBTQ+ ดังกล่าว และได้เบาะแสว่า เกย์แสบรายนี้เป็นสมุนของเอเยนต์ตัวเป้งย่านปากเกร็ด และเอเยนต์รายนี้ยังมีดีกรีเป็นถึงข้าราชการ โดยมักรวมพลเหล่าข้าราชการเกย์ในก๊วน มามั่วสุมปาร์ตี้ยาเสพติดกันอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งบน ถ.รัตนาธิเบศร์ จึงบุกไปยังห้องพักดังกล่าว พบกับ เจ๊เก่ง และนายท็อป

โดยแรกเริ่ม เจ๊เก่ง มีท่าทีบ่ายเบี่ยงกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อทำการตรวจค้นห้องพักก็พบยาเสพติดหลายรายการในลักษณะเตรียมแบ่งขายหลายรายการ พบสมุดบันทึกการซื้อขายยาเสพติดจำนวนมาก และยังพบยากระตุ้นอารมณ์ ถุงยาง เจลหล่อลื่น และหนังโป๊ชายรักชายจำนวนมาก

โดย เจ๊เก่ง อ้างว่าอุปกรณ์ต่างๆ นั้นไว้ใช้สอนหนังสือในโรงเรียน แต่จากการขยายผลของชุดจับกุมพบว่าเจ๊เก่งเป็นถึง “ระดับหัวจ่าย” ที่คอยส่งยาเสพติดให้กับข้าราชการอีกหลายคน โดยพบเงินหมุนเวียนในห้วงเดือนที่ผ่านมาเป็นจำนวนกว่า 1,300,000 บาท

ซึ่งจากการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายของทั้งสองพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งท้ายสุดทั้งสองก็ยอมจำนนและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในที่สุด

ในชั้นจับกุม นายเศรษฐยศ หรือเจ๊เก่ง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ปัจจุบันตน ประกอบอาชีพรับราชการครูตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด สอนวิชาการงานอาชีพให้แก่เด็กชั้นประถมศึกษา โดยตนเริ่มเสพยาตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2566 และเริ่มสั่งยาเสพติดมาจากทวิตเตอร์มาขายในช่วงต้นปี พ.ศ.2567 ซึ่งนำมาขายให้เพื่อน วัยรุ่น และข้าราชการ ย่านรัตนาธิเบศร์

จนถึงปัจจุบันตนยังคงรับราชการครูอยู่และยังขายยาเสพติดไปด้วย และได้รู้จักกับเกย์ท็อป เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน พ.ศ.2566 โดยนายท๊อปได้ไปๆ มาๆ ที่ห้องของตนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนได้นำยามาขายให้กับนายท็อป และให้นำไปขายเรื่อยมา”

ขณะเดียวกัน ในชั้นจับกุม นายท็อป ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเกิดที่กรุงเทพฯและโตที่กรุงเทพฯ เข้าเรียนชั้นอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อจบการศึกษาได้ออกมาประกอบอาชีพออแกไนซ์จัดงานเป็นระยะเวลา 1 ปี จึงได้เรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวันจนจบปริญญาโท ได้ประกอบอาชีพอยู่ที่บริษัทประกัน

จากนั้นตนเริ่มใช้ยาเสพติด เกี่ยวข้องกับยาเสพติดต่อเนื่องมาจนชีวิตเริ่มดำดิ่ง กระทั่งถูกดำเนินคดีขณะเสพยาอยู่กับกลุ่มเพื่อนในปี พ.ศ.2557 ติดคุกอยู่ 1 ปี 3 เดือน หลังออกมาจากเรือนจำในปี พ.ศ.2558 ตนพยายามหางาน เพราะไม่ต้องการเป็นภาระของทางบ้าน แต่ไม่สามารถหางานได้เนื่องจากตนเคยติดคุกมา เมื่อไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ตนจึงได้หวนกลับมาในเส้นทางเดิมโดยการเริ่มขายยาเสพติด

จนเริ่มคบหาดูใจกับแฟนหนุ่มซึ่งประกอบอาชีพแพทย์มา 2 คน และได้เลิกรากันโดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้ไปหลอกลวงเหล่าแพทย์ชาย แต่เพราะพวกหมอเหล่านั้นติดยาเสพติดที่ตนเอาไปให้เอง และต่อมาได้มารู้จักกับครูเก่ง และตนก็มารับยาจากครูเก่งไปขายเป็นประจำ โดยขายให้กับกลุ่มเพื่อน จนในที่สุดตนได้ถูกออกหมายจับ และถูกจับกุมตัวส่งศาลแต่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ตนจึงได้หลบหนีในขณะที่ศาลให้ประกันตัวเป็นระยะเวลา 2 ปี จนมาถูกจับในวันนี้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image