‘ทนายตั้ม’ หอบหลักฐานเส้นทางการเงินเพิ่มเติมของ’บิ๊กตำรวจ’ ให้ ก.ร.ตร. ชี้มั่นใจในการตรวจสอบ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 เมษายน ที่สำนักงานจเรตำรวจ ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางเข้ายื่นหลักฐานที่เป็นเอกสารเส้นทางการเงินจากเว็บพนันกว่า 1,000 หน้ามามอบให้ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบที่มาที่ไปของเงิน
นายษิทรากล่าวว่า วันนี้นำเส้นทางการเงินเดิมแต่มีความละเอียดมากขึ้นมามอบให้ พล.ต.ท.เรวัช เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นยอดเงินหลายร้อยล้าน มั่นใจในชุดทำงานของ พล.ต.ท.เรวัช เพราะเป็นผู้ที่ตรงไปตรงมา ผิดก็คือผิด ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือเอื้อประโยชน์ให้ใคร
ส่วนที่ สน.เตาปูน มีการสอบพยานปากสำคัญไปแล้ว 2 ปาก คือ สายลับและ น.ส.พิมพ์วิไล จะต้องทำคำให้การของพยานออกมาในรูปแบบของหนังสือ เนื่องจากการสอบปากคำใช้เวลากว่า 1 ชม. แต่กลับพิมพ์คำให้การแค่กระดาษ 1 หน้า มองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ ซึ่งพยานคนดังกล่าวรู้ถึงที่มาของเส้นทางการเงิน แบบนี้ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หรือไม่
นายษิทรายังกล่าวว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.อ.สุรเดช ฉัตรไทย ผกก.สน.เตาปูน จะลาออกจากตำแหน่งนั้น เชื่อว่ามีความกดดันตั้งแต่คดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และตนไปแจ้งความเอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์อีก รวมทั้งมีกระแสข่าวว่าจะมีการโอนสำนวนคดีไปให้หน่วยงานอื่นทำแทน
อาจกลัวว่าจะถูกตรวจพบความผิดที่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตามจริงแล้วเว็บพนันเป็นความผิดทั่วราชอาณาจักร จะแจ้งความที่ไหนก็ได้ แต่ที่เลือกมาแจ้งความที่ สน.เตาปูน เพราะว่าเป็นความผิดแบบเดียวกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนมีข้อมูลอยู่แล้ว ถ้าหากมีการโอนคดีโดยมิชอบก็จะแจ้งดำเนินกับผู้โอนคดีเช่นกัน
ในส่วนความปลอดภัยของตนนั้นมีผู้ใหญ่เตือนมาว่าอีกฝ่ายมีการเคลื่อนไหวแล้ว ให้ระวังตัวและครอบครัวด้วยซึ่งฝ่ายที่พูดถึงคือ คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเว็บพนัน นายษิทราอ้างว่ามีตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เกี่ยวข้องกับเว็บพนันด้วย ตอนนี้มีการยกเลิกตั๋วแล้ว พอเรื่องเงียบไปสักพักก็กลับมาเก็บตั๋วเหมือนเดิม
เหมือนที่ตำรวจเรียกเก็บส่วย น.ส.พิมพ์วิไล พอมีการจับกุม ก็มีการขอให้ น.ส.พิมพ์วิไลจ่ายส่วยต่อ ซึ่งตนรู้สึกท้อใจแต่ไม่ถอยแน่นอน ขณะนี้ น.ส.พิมพ์วิไลอยู่ที่ สน.เตาปูน รายงานตัวอยู่และจะเดินทางมายังสำนักงานจเรตำรวจในบ่าส่วนการปฏิรูปตำรวจมองว่ารัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง ถ้าไม่สนใจก็จะวนอยู่แบบนี้
