เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ที่บริเวณใต้ทางต่างระดับฉิมพลี ที่สวนสาธารณะร่มเกล้าชาวทาง ถนนบรมราชชนนี ด้านขาเข้า แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ ผกก.สส.สน.ธรรมศาลา พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล รอง ผกก.สส.สน.ธรรมศาลา และเจ้าหน้าสืบสวนชุดคลี่คลายคดีนายรัติภูมิ พิมใจใส หรือเบิร์ด อายุ 34 เซลส์ขายรถยนต์ย่านเกษตร-นวมินทร์หายตัวปริศนาตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ร่วมกันลงพื้นที่ค้นหาร่องรอยของนายรัติภูมิ โดยได้ประสานทีมประดาน้ำจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจำนวน 3 นายลงค้นหาภายในหนองน้ำ ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่หนองน้ำและสวนหย่อมของกรมทางหลวง มีบริเวณพื้นที่กว้างประมาณ 4 ไร่ อีกทั้งเป็นหนองน้ำที่มีจอกแหนปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ มีความลึกกว่า 2 เมตร และมีจำนวนหลายบ่อ แต่จากคำให้การของพยาน ทราบว่าเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 ขณะที่กำลังจะมาตกปลาบริเวณดังกล่าวได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้งบริเวณแหล่งน้ำริมถนนบรมราชชนนี จนต้องหนีไปหาแหล่งตกปลาบริเวณอื่น ประกอบกับบริเวณจุดดังกล่าวตามที่พยานให้การมานั้นอยู่ไม่ห่างกับจุดที่พบโทรศัพท์มือถือของนายรัตภูมิ อีกทั้งจากการเข้าปูพรมค้นหาของทีมสืบสวนคลี่คลายคดีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้พบรองเท้าหนังสีดำข้างขวายี่ห้อ Des Gn เบอร์ 43 เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานนำรองเท้าและโทรศัพท์มือถือที่พบก่อนหน้านี้ไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อนำมาประกอบสำนวนและหาความเชื่อมโยงติดตามหาตัวนายรัติภูมิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมคลี่คลายคดีจำนวนกว่า 20 นาย ได้แบ่งกำลังกระจายกันออกค้นหากระเป๋าหรือสิ่งของของนายรัติภูมิทั่วพื้นที่โดยรอบ ขณะเดียวกันนักประดาน้ำจำนวน 3 คนได้ดำลงไปในหนองน้ำที่มีหญ้ารกปกคลุมอยู่หนาแน่น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการงมค้นหา
จากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.นพศิลป์ เปิดเผยว่า จากการค้นหาร่างนายรัติภูมิใน2วัน พบรองเท้า และกระดูกจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดจะถูกส่งไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ ว่าเกี่ยวข้องกับนายรัติภูมิ หรือไม่ ต้องใช้เวลาทางแล็บระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปูพรมค้นหาร่องรอย สิ่งของ หรือเบาะแสที่จะสามารถเชื่อมโยงไปหานายรัติภูมิใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะยุติการค้นหาไว้และในช่วงเย็น ทีมสืบสวนจะประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง
ต่อมา15.30 น. มีรายงานว่า นายละเอียด พิมใจไส อายุ65ปี บิดานายรัติภูมิ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ จากกระพุงแก้ม ก่อนเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรียกมาเก็บดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ทราบวัตถุพยานที่พบเห็นว่าตรงกันในเรื่องดีเอ็นเอหรือไม่ โดยตนได้พูดคุยกับนายรัติภูมิ ล่าสุดเมื่อวันที่18 ธันวาคม 2559 แต่ไม่ได้ใช้เวลาคุยนานมาก จนกระทั่งมาเกิดเหตุไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีก ส่วนเรื่องที่มีการค้นพบ รองเท้า นั้น คิดว่า ไม่ใช่ของลูกชายเพราะไม่ได้ใส่รองเท้าแบบนั้น และลูกชายเป็นคนแต่งตัวเนี้ยบ ไม่ใส่รองเท้าแบบเหยียบส้นแน่
นายละเอียด กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าลูกชายเคยเสพยามาก่อน แต่ต่อมาได้เลิกแล้ว หลังจากมาเป็นเซลล์แมน ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่พบนั้น ยอมรับว่าเป็นของลูกชายและลูกชายเป็นคนหวงทรัพย์สินจึงเชื่อว่าจะไม่ทิ้งทรัพย์สินแน่นอน
“คิดว่าเรื่ิองที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เพราะว่าสาวคนสนิท ที่ลูกไปติดพัน มีสามีเป็นคนมีสี และเคยเตือนลูกแล้ว แต่เชื่อว่าลูกชายยังไม่ตายเพราะไปดูหมอดูมา ลูกจำเป็นต้องหลบซ่อนตัว จนกว่าจะพ้นเคราะห์กรรม”นายละเอียดกล่าว
นอกจากนี้ 16.45น. น.ส.นันทิยา สุวรรณวาสี ภรรยานายรัติภูมิ เข้าพบพนักงานสอบสวนสน.ธรรมศาลา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานเกือบ 2 ชั่วโมง เบื้องต้นทราบว่าช่วงเย็นของวันที่ 20 ธันวาคม2559ที่ผ่านมา นายรัติภูมิยังติดต่อกับภรรยาผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และมีการโอนเงินให้จำนวน 300 บาท หลังจากเวลาเที่ยงคืนเศษ พบว่าสัญญาณโทรศัพท์หายไปไม่สามารถติดต่อได้อีก และไม่พบข้อมูลว่านายรัติภูมิทำประกันชีวิตไว้แต่อย่างใด ทั้งนี้เชื่อว่านายรัติภูมิยังมีชีวิตอยู่ แต่ยังไม่ทราบว่าหายตัวไปได้อย่างไร
ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำภรรยาของผู้สูญหาย รวมถึงบิดาและน้องชาย ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และยังไม่พบพิรุธใดๆ ส่วนที่ภรรยาให้ความร่วมมืออย่างดี สาเหตุที่มาให้การช้าเนื่องจากยังไม่พร้อมเจอนักข่าว ส่วนสงสัยบุคคลใดนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ ที่ผ่านมาทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันแต่ไม่ได้รุนแรง จากนี้จะเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งเร่งหาตัวนายรัติภูมิให้พบโดยเร็ว ทั้งนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ได้แบ่งงานให้ตำรวจออกหาข่าวทั้งแก๊งชิงทรัพย์และยาเสพติดในพื้นที่
