เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง การขยายผลเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาว ว่า หากขยายผลไปถึงใครต้องดำเนินคดีทั้งหมด ขอสังคมอย่าเพิ่งปักใจเชื่อข่าวโคมลอย ว่าจะมีลูกคนนั้นคนคนนี้ไปเกี่ยวข้อง เรามีแนวทางข้อมูลหลักฐานในการดำเนินการอยู่แล้ว โดยใช้มาตรการการยึดทรัพย์ด้วยเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
รองโฆษกตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีคำสั่งให้ตรวจสอบภาพถ่ายที่มีนายตำรวจกับนายไชซะนะ ที่ปรากฎทางโซเชียลมีเดียแล้ว พบว่า เป็นข้าราชการตำรวจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบน และส่วนกลางจริง จำนวน 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ต้นสังกัดตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ต้องหาว่ามีความสัมพันธ์ในลักษณะใด หรือเป็นเพียงการร่วมถ่ายภาพตามปกติ โดยต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่หากพบมีความเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเด็ดขาด
รองโฆษกตร.กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดีตำรวจ บช.ปส.กำลังเร่งขยายผล พร้อมยึดทรัพย์ โดยเฉพาะประเด็นการกู้ยืมเงินจำนวน 6 ล้านบาท ระหว่างนาย นายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ผู้ต้องหาและนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง ที่จะนำข้อมูลท้ังหมดเข้าที่ประชุมร่วม 3 ฝ่าย คือ ป.ป.ส .บช.ปส. และ ป.ป.ง. ในวันนี้ ยืนยันว่าหากพบบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นดารา ลูกนักการเมือง หรือกลุ่มไฮโซ จะดำเนินการทั้งหมด รวมทั้งหากเบนซ์ เรซซิ่งไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ก็อยู่ในข่ายที่จะถูกพิจารณาดำเนินคดี แต่ขณะนี้เบนซ์ เรซซิ่ง ยังอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้ต้องหา
