2 สาวเอ็นร้องสายไหม ถูก มีน พระราม 3 เบี้ยวค่าจ้าง ซ้ำขโมยทรัพย์สิน หนักถึงขั้นข่มขืน

2 สาวเอ็นร้องสายไหม ถูก มีน พระราม 3 เบี้ยวค่าจ้าง ซ้ำขโมยทรัพย์สิน หนักถึงขั้นข่มขืน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 พฤษภาคม ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 โดยมี 2 ตัวแทนผู้เสียหายของสาวเอ็นเตอร์เทน เข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกนายกิตติกร หรือ “มีน พระราม 3” อายุ 33 ปี สร้างแอ๊กเคาต์ไลน์ปลอมแสร้งว่าเป็นโมเดลลิ่ง ติดต่อหากลุ่มผู้เสียหายที่เป็นสาวเอ็นเตอร์เทน ว่ามีลูกค้าอยากที่จะจ้างงาน แต่แท้จริงแล้วก็คือนายกิตติกรเองที่เป็นคนจ้างโดยเบี้ยวค่าจ้าง พร้อมกับขโมยทรัพย์สินไปแล้วกว่า 100 คน

น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนได้รับการว่าจ้างจากคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่าใช้รูปปลอมทักหาตน โดยอ้างตัวว่าเป็นโมเดลลิ่ง สนใจจะว่าจ้างตนให้ไปรับงานเอ็นเตอร์เทน ซึ่งทันทีที่ไปถึงจุดนัดพบ ปรากฏว่าตัวจริงเป็นคนละคนกับผู้ว่าจ้าง ซึ่งก็คือนายกิตติกร โดยนายกิตติกรได้อ้างว่ามารับแทนผู้ว่าจ้าง และด้วยความที่ตนกลัวว่าจะเสียประวัติการทำงาน จึงยอมไปตามคำชวนแต่โดยดี เมื่อไปถึงโรงแรม จังหวะที่ตนออกมาจากห้องน้ำ นายกิตติกรก็มีอาการลุกลี้ลุกลน จะขอกลับบ้าน โดยปล่อยให้ตนรออยู่ในโรงแรมเพียงคนเดียว ทันทีที่ตนเปิดกระเป๋าดูก็พบว่าทรัพย์สินหายไปกว่า 10,000 บาท จึงพยายามโทรตามนายกิตติกร ซึ่งนายกิตติกรก็เอาแต่อ้างว่า เดี๋ยวจะไปคืนที่บ้าน

ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนโดนนายกิตติกรออกอุบายให้โอนเงินไปให้ โดยอ้างว่าได้เดิมพันกับเพื่อนว่าเด็กเอ็นเตอร์เทนวันนี้พกเงินสดมาเท่าไหร่ ถ้าใครทายถูกก็จะได้เงินจากการเดิมพัน โดยนายกิตติกรได้ร้องขอให้ตนโอนเงินไปให้จนหมดบัญชี และอ้างว่าหลังจากเสร็จเดิมพันแล้วจะนำเงินมาคืน พร้อมกับเพิ่มค่าจ้างให้อีกเท่าตัว ซึ่งตนก็ตกลงจึงโอนเงินให้ไป

Advertisement

จากนั้นนายกิตติกรก็ได้ไปส่งตนที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ทันทีที่ตนลงจากรถนายกิตติกรก็รีบขับรถหนีออกไปเลยหลังเกิดเรื่อง ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนร่วมอาชีพหลายคน ปรากฏว่ามีหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อนายกิตติกรเช่นเดียวกัน บางคนนอกจากจะโดนขโมยทรัพย์สินแล้ว ยังโดนข่มขืนอีกด้วย ซึ่งมีบางคนได้ไปแจ้งความ แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรให้ จนทำให้บางคนถึงขั้นคิดสั้นจนเกือบจะฆ่าตัวตายมาแล้ว ซึ่งถ้าหากนายกิตติกรมีโอกาสได้ดูอยู่ ตนก็อยากจะถามว่า ทำไมต้องมาเอาเปรียบผู้หญิงแบบนี้ อยากให้ติดคุก หรือได้รับผลกรรมจากสิ่งที่ทำไว้โดยเร็ว

ด้านนายเอกภพเปิดเผยว่า หลังจากนี้ตนจะประสานไปยัง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดตัวนายกิตติกร มาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะถ้าหากปล่อยไว้ถือเป็นภัยร้ายแรงสำหรับผู้หญิง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image