จับ ‘แด๊ก’ เครือข่ายสมุน ‘อาร์ท ต่ำเอี่ยว’ พ่อค้ายารายใหญ่ ยึดไอซ์ 1 ตัน กว่า 80 ล้านบาท

รวบ แด๊ก เครือข่ายยาเสพติด “ทีมโกดังยาเสพติด อาร์ท ต่ำเอี่ยว”ยึดยาไอซ์1 ตัน (1,000 กก.) กว่า 80,000,000 บาท

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1 ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 และคณะทำงาน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “อาร์ท ต่ำเอี่ยว” พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 40 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า สำหรับการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “ทีมโกดังยาเสพติด อาร์ท ต่ำเอี่ยว” นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดของนายอภิวิชญ์ หรืออาร์ท ต่ำเอี่ยว ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับและหลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านได้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บพักไว้และกระจายให้กับกลุ่มผู้รับซื้อในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย

คือ กทม. และโดยรอบปริมณฑล อีกทั้งจากการสืบสวนทราบว่านายดิเรก หรือแด๊ก (สมุนของนายอาร์ท) มีหน้าที่จัดทีมลำเลียงยาเสพติดมาเก็บไว้เพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้าตามคำสั่งของนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายดิเรก ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

Advertisement

จากการสืบสวนทราบว่า นายดิเรกได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Fortuner สีเทา เป็นยานพาหนะในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้รถกระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามจนกลุ่มของนายดิเรกทราบว่าได้ถูกติดตาม จึงแยกย้ายกันหลบหนี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถติดตามรถกระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 ซึ่งเป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดคันดังกล่าวได้ทัน บริเวณริมถนนซอยโยธาธิการ ข้างโรงเรียนนายร้อย จปร. หมู่ 1 ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ทำให้ได้พบกับนายสมภพ หรือเล็ก เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจสอบ ก่อนจะตรวจยึดของกลาง ได้แก่ 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน จำนวน 40 กระสอบ น้ำหนัก 1 ตัน หรือ 1,000 กก. มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท 2.รถกระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 จำนวน 1 คัน ซึ่งใช้ในการลำเลียงยาเสพติด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่นายสมภพ คนขับรถลำเลียงยาเสพติดกระทำผิดฐาน ร่วมกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำขยายผล นายสมภพ (คนขับลำเลียงยาเสพติด) ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายดิเรก ให้ขับรถลำเลียงยาเสพติดไปตามเส้นทางที่นายดิเรกแจ้งไว้ โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท เมื่อเสร็จงาน พร้อมยอมรับว่าเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มผู้ค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำความผิดในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

Advertisement

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวด้วยว่า สำหรับของกลางที่บรรจุไอซ์นั้น จะพบว่าเป็นหีบห่อสีเขียวคล้ายถุงบรรจุซองผงชาสำเร็จรูป แต่จริงๆ ก็คือผงไอซ์ อีกทั้งจากข้อมูลเชิงลึกทราบว่ากลุ่มขบวนการลูกน้องนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว มีความคิดที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการจับกุมเกิดขึ้น ตนจึงได้บอกชุดปฏิบัติการว่าในกรณีที่เข้าจับกุมตัวหรือตรวจค้น แล้วถูกทำร้ายร่างกาย อาจมีความจำเป็นต้องป้องกันชีวิตของตัวเอง ซึ่งต้องใช้มาตรการรุนแรง ดังนั้น ตนจึงขอเตือนไปยังผู้ที่คิดจะเข้าไปร่วมขบวนการนี้ขอให้ถอนตัวแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามจับกุม และขอย้ำว่าในการรับว่าจ้างขนส่งลำเลียงอะไร ขอให้ตรวจสอบให้ดีถี่ถ้วนและต้องมั่นใจว่าไม่ใช่การกระทำผิดกฎหมายหรือขนสินค้าผิดกฎหมาย หากทำโดยรู้ทั้งรู้ว่าเป็นการขนลำเลียงยาเสพติดก็ย่อมมีความผิดร่วมด้วย ได้เงินค่าจ้างหลักหมื่น ไม่คุ้มกับอัตราโทษ

ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญเผยว่า ใครก็ตามที่ให้ที่พักพิงหลบซ่อนแก่ลูกน้องของนายอาร์ท จะต้องมีความผิดร่วมด้วย และขอเตือนเยาวชนที่จะไปเข้าร่วมขบวนการลำเลียงยาเสพติด ขออย่าไปข้องเกี่ยว ส่วนบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวสามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ได้ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือและปกปิดแหล่งที่มาของข่าว

ด้าน พล.ต.ท.จิรสันต์กล่าวว่า สำหรับการติดตามสะกดรอยจับกุมขบวนการเครือข่ายนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลมาเกือบปีแล้ว ลักษณะของการกระทำความผิด คือ คนสั่งการอยู่นอกประเทศ (นายอาร์ท) และสั่งให้สมุนของตัวเองในประเทศไทยดำเนินการให้ อย่างไรก็ตาม ข่าวความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนายอาร์ททั้งหมดทราบตัวบุคคลแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินคดีโดยเคร่งครัด และจะเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป หากประชาชนท่านใดมีเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ ส่วนข้อมูลเชิงลึกว่าในจำนวนไอซ์ ล็อต 1 ตันนี้ได้มีการส่งออกไปยังต่างประเทศหรือไม่นั้น เบื้องต้นพบว่าเป็นการส่งไปขายยังภาคตะวันออก ยังไม่พบการส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image