สืบนครบาล รวบ ‘หนึ่งบ่อพลอย’ ลอบขายปืนเถื่อน-กระสุน ผ่านเฟซบุ๊ก

สืบนครบาล รวบ ‘หนึ่งบ่อพลอย’ ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนพร้อมกระสุน ผ่านสื่อโซเชียล

จากนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนก่อเหตุอาชญากรรมมีเป็นจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวาน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย, พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้จับกุมตัว นายสราวุฒิ หรือหนึ่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี อาศัยอยู่ ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

Advertisement

พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย
1.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
2.ซองกระสุน (แม็กกาซีน) จำนวน 1 ซอง
3.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”

Advertisement

ทั้งนี้ ก่อนทำการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.ได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าวเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดที่ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลเป็นช่องทางในการติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.และได้ข้อมูลว่า นายสราวุฒิ (ทราบชื่อจริงภายหลัง) ใช้บัญชีเฟซบุ๊กในการขายอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนติดตามเรื่อยมา ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้ตรวจสอบพบว่า นายสราวุฒิ ผู้ใช้เฟซบุ๊กเสนอขาย อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ในราคา 30,000 บาท โดยนัดหมายให้มารับบริเวณซอยรามคำแหง 157 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ

พ.ต.ต.สมพรจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่ออนุมัติในการล่อซื้อจับกุมผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นั่งรถยนต์ไปกับสายลับเพื่อไปทำการล่อซื้ออาวุธจากนายสราวุฒิ

ต่อมาประมาณ 18.45 น. เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเดินทางไปถึงบริเวณปากซอยรามคำแหง 157 นายสราวุฒิได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและสายลับว่าให้ขับรถเข้ามาในซอยรามคำแหง 157 ซึ่งเป็นอาคารที่พัก จากนั้นนายสราวุฒิได้เดินมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและสายลับที่ลานจอดรถเพื่อนำอาวุธปืนของกลาง ตามของกลางลำดับที่ 1-2 มาให้ตรวจสอบ พบว่าเป็นอาวุธปืนตามของกลางดังกล่าวจริง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่กับสายลับได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่โดยรอบเข้าทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวเพื่อทำการจับกุมตัวนายสราวุฒิ พร้อมของกลางลำดับที่ 1-2 ซึ่งนายสราวุฒิเป็นผู้ถือมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสายลับตรวจสอบ ส่วนของกลางลำดับที่ 3 ตรวจพบภายในกระเป๋ากางเกงข้างหลังด้านขวาของนายสราวุฒิ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสราวุฒิมายัง กก.สส.2 เพื่อสอบสวนขยายผลอาวุธปืนและดำเนินการทำบันทึกจับกุมส่ง พงส.สน.บางชัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืน นายสราวุฒิได้ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 30,000 บาท จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว

โดยตำรวจจับกุมได้ที่บริเวณภายในลานจอดรถอพาร์ตเมนต์ ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.ธีรเดชฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image