เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี พระสนิทวงศ์ วุฑิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย พร้อม พระมหานพพร ปุญญชโย ผู้ช่วย ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร ออกมาเชิญ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เข้าไปเจรจาที่ห้องประชาสัมพันธ์ บริเวณทางเข้าประตู 7 โดยใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ก่อนคณะเจ้าหน้าที่จะเดินออกจากประตู 7 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า ทางวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เจ้าหน้าจึงเสนอเงื่อนไข 2 – 3 ข้อ ในขั้นตอนดำเนินการ แต่ทางวัดขอเวลาหารือก่อนเจรจากันอีกครั้ง คาดว่าหลังเวลา 12.00น. วันนี้
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ขอชี้แจงถึงความจำเป็นที่ดีเอสไอต้องขอใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายกับวัดพระธรรมกาย โดยยืนยันว่าเป็นการทำตามกฎหมาย และควบคุมตัวบุคคลตามหมายจับเท่านั้น และยังขอความร่วมมือให้ผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง ออกจากพื้นที่วัดพระธรรมกาย เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นพื้นที่วัดพระธรรมกาย จะมีการตรวจค้นทั้งหมด 2,000 ไร่ เริ่มที่ประตู 8 เป็นประตูแรก เป้าหมายการเข้าตรวจค้นในวันนี้นำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดยเฉพาะพระธัมมชโย แม้ไม่ได้รับคำยืนยันว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในพื้นที่ของวัดหรือไม่ แต่จำเป็นต้องเข้าตรวจค้นทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงส่วนระยะเวลาการเข้าตรวจค้นจะดำเนินการทั้งกลางวันและกลางคืน และไม่กำหนดวันที่ตรวจค้น จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น ทั้ง 2,000 ไร่
