เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ แถลงความคืบหน้าคดีกับพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่ามีบุคคลบางกลุ่มอ้างว่าไม่สามารถนำอาหารเข้าไปในวัดเพื่อถวายพระ กล่าวหาว่าถูกเจ้าหน้าที่กีดกัน ซึ่งขอยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ โดยจะให้ใช้ประตู 7 เพียงประตูเดียวสำหรับการนำอาหารเข้าไปข้างในวัด 1,000 ชุด ถวายภัตหารเพล เพื่อสะดวกในการตรวจสอบและควบคุมสถานการณ์ให้เหมาะสมถูกต้อง เพราะพื้นที่ในวัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม ขอยืนยันว่าสำหรับพระภิกษุ 6 ฆราวาส 22 รวม 28 คน มีการปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ ไม่ได้ดำเนินคดีแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้บริเวณพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวงมีกองทัพมดทยอยเดินทางเข้ามารวมกลุ่ม ทั้งที่จัดอยู่ในพื้นที่ควบคุม ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่เห็นมีบทบาทการทำงาน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวยังเรียบร้อยดีอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ ซึ่งจากที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวบรวมเก็บพยานหลักฐานไว้ ซึ่งใครขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่จะดำเนินการทุกกรณีไป จึงขอให้ประชาชนออกจากพื้นที่ หรืออย่าเข้ามารวมกลุ่ม เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุม
รายงานข่าวจาก สภ.คลองหลวง แจ้งว่า บริเวณตลาดกลางคลองสาม โดยนายอัยย์ เพชรทอง ประธานองค์กรพลังชาวพุทธ (กัลยาณมิตรวัดพระธรรมกาย) ได้แถลงจุดยืนของคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย โดยกล่าวกับสื่อมวลชนว่า คณะลูกศิษย์และพระวัดพระธรรมกายที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยินยอมให้เดินทางเข้าไปในวัดพระธรรมกายนั้น ทางตนและคณะบรรดาลูกศิษย์พร้อมกับพระสงฆ์ก็จะปักหลักสวดมนต์บริเวณตลาดกลางต่อไปเรื่อยๆ และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียกเลิกมาตรา 44 ที่ใช้กับวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งขอร้องสื่อมวลชนไม่ให้นำภาพหรือข้อความที่ทำให้ทางวัดพระธรรมกายเสื่อมเสีย หลังจากนั้นได้เดินออกจากตลาดกลาง โดยแจ้งว่ามีนัดออกรายกายทีวี แต่ไม่ได้บอกว่าสถานีข่าวช่องใด
