ปรบมือ !ตร.จราจรใจเย็น แก้สถานการณ์โชเฟอร์เท็กซี่ฝ่าไฟแดง เครียดทุบเตะรถตัวเอง

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้โซเชียลมีเดียกำลังวิพากวิจารณ์ถึงคลิปเหตุการณ์โชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมเกรี้ยวกราดโดยการทุบและเตะรถตัวเอง พร้อมด่าทอการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ภาษีเจริญ เหตุเกิดบริเวณสี่แยกเพชรราชพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 4 นาที ก่อนถูกตัดไปโดยไม่มีใครทราบที่มาของสาเหตุและตอนจบของเรื่อง ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถาม พ.ต.ท.พลัฏฐ์ ทับทิม สว.จร.สน.ภาษีเจริญ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

พ.ต.ท.พลัฏฐ์ กล่าวว่า คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์จริงเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้ที่อยู่ในคลิปเป็นชายลักษณะหัวโล้น อายุประมาณ 45-50 ปี ขับขี่รถแท็กซี่โตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทล 9107 กรุงเทพมหานคร ฝ่าสัญญาณไฟจราจรสีแดงจากบริเวณถนนเพชรเกษม เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์ โดยไม่รอสัญญาณไฟเขียวทั้งที่มีป้ายเตือนชัดเจน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดเพื่อขอแจ้งข้อหาปรากฏว่า ชายดังกล่าวได้ลงจากรถมาว่ากล่าวเจ้าหน้าที่พร้อมแสดงอาการเกรี้ยวกราดด้วยการทุบรถและเตะรถตัวเอง โดยไม่ได้มีพฤติกรรมที่จะคุกคามต่อเจ้าหน้าที่ ได้รอสงบสติอารมณ์และได้พูดคุยกันทำให้ทราบว่าชายดังกล่าวกำลังประสบปัญหาหลายอย่าง จึงได้ใช้วิจารณญาณว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวไป เพราะเห็นว่าโชเฟอร์รายนี้น่าจะมีความเครียดสะสมจากปัญหาส่วนตัวจริงๆ

ด้าน ด.ต.เฉลิมภพ ปรางทิพย์ ผบ.หมู่งานจราจร สน.ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติงานที่ปรากฏตามคลิป กล่าวว่า วันดังกล่าวกำลังอำนวยการจราจรบริเวณสี่แยกเพชรราชพฤกษ์ร่วมกับผู้ปฏิบัติงานอีก 2 นาย โดยขณะที่โชเฟอร์คนดังกล่าวขับรถฝ่าไฟแดงไปนั้นมีเพื่อนตำรวจ 1 นาย ยืนดักอยู่ตรงนั้นและเข้าโบกสกัดกั้นให้หยุดรถ แต่แทนที่เจ้าตัวจะยอมมอบใบอนุญาตขับขี่ให้แต่โดยดีกลับด่าทอการทำงานหาว่าตำรวจรังแก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปช่วยดูสถานการณ์เกรงว่าโชเฟอร์ดังกล่าวอาจก่อเหตุไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงๆ เพราะเจ้าตัวเริ่มแสดงพฤติกรรมแปลกๆ ด้วยการใช้กำปั้นทุบที่กระโปรงท้ายรถ ก่อนจะเดินห่างไปแล้วย้อนมาเตะและถีบที่บริเวณท้ายรถตัวเองอีกโดยยืนยันจะไม่ให้ยึดใบอนุญาตขับขี่ สักพักเจ้าตัวก็เดินไปนั่งที่ม้านั่งข้างทาง ซึ่งเห็นว่าโชเฟอร์คนดังกล่าวไม่มีเจตนาหลบหนีและไม่มีอาการจะคุกคามทำร้ายเจ้าหน้าที่จึงให้นั่งพักเพื่อสงบสติอารมณ์ประมาณ 10 นาทีและตัดสินใจเดินเข้าไปพูดคุยกัน

1
จากการสอบถามได้ความว่า โชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าวกำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก รถที่ขับรับส่งผู้โดยสารเสียมา 2 วันแล้วยังไม่มีเงินซ่อมและยังเพิ่งถูกตำรวจโรงพักอื่นจับเสียค่าปรับมาหมาดๆ ตนเห็นว่าสิ่งที่เล่ามาไม่น่าจะโกหกจึงได้อธิบายความผิดที่เจ้าตัวฝ่าสัญญาณไฟแดง ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับและขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป จึงใช้วิจารณญาณว่ากล่าวตักเตือน ก่อนปล่อยตัวไปโดยไม่ได้แจ้งข้อหาหรือเปรียบเทียบปรับ ซึ่งอยากให้ประชาชนเข้าใจด้วยว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายก็เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด

Advertisement

ขณะที่ พ.ต.ท.พลัฏฐ์ กล่าวเสริมว่า หลังดูคลิปเหตุการณ์นี้แล้วยังกล่าวชื่นชมผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้ง 3 นายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ว่า มีความใจเย็น ใช้สติในการทำงานตามนโยบายของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่เน้นว่า ให้ใช้หลักนิติศาสตร์ควบคู่ไปกับรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าจะย่อหย่อนว่ากล่าวตักเตือนกันได้ทุกรายไป เพราะการปฏิบัติตามกฎหมายจะช่วยให้ทุกคนปลอดภัยและช่วยให้การจราจรติดขัดน้อยลง คนที่ทำผิดกฎจราจรส่วนใหญ่นั้นมักไม่ยอมรับผิด และเมื่อทำแล้วไม่ถูกจับหรือรอดหูรอดตาตำรวจไปได้จะเห็นเป็นเรื่องผิดเล็กๆ น้อยๆ หากฝ่าฝืนแล้วทำให้ชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองและผู้ร่วมทางได้รับความเสียหายขึ้นมา ก็มักจะออกมาขอโทษซึ่งมันสายไปเสียแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image