อึ้งแผน บอสพอล ส่ง ‘หนอน’ ประกบพัช – เผยยัดเครื่องดักฟังในเป้ากางเกงอัดคลิปยาว 7 ชม.
จากกรณีที่ พัช – กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่และประธานศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ศคอ. ออกมาให้สัมภาษณ์ ปฏิเสธกระแสข่าวว่ามีนักร้องเรียนผู้หญิง ตบทรัพย์ดิไอคอน 10 ล้านบาท โดยเผยว่า ไม่ทราบว่ามีคลิปออกมาหรือไม่ แต่ยืนยันว่า 10 ล้านบาทไม่มีแน่นอน ถ้ามี ก็พร้อมชี้แจง มั่นใจว่าไม่เคยพูดประเด็นนี้ เพราะผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือทั้งหมด 89 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท ทางฝ่ายคู่กรณีคือดิไอคอน ขอเจรจาปรับลดต่อรองเหลือ 8 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พัช กฤษอนงค์ มาร่วมรายการโหนกระแส พร้อมบอกว่าจะนำหลักฐานชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนออกมายืนยันข้อเท็จจริง
โดยในรายการมีการถามกฤษอนงค์ในหลากหลายประเด็นที่เป็นข้อครหาของสังคมว่ามีการข่มขู่เรียกเงินจากฝ่ายผู้เสียหาย แล้วไปเรียกเงินจากฝ่ายดิไอคอนอีกทางด้วยหรือไม่ โดยหนึ่งช่วงที่ทำให้คนในห้องส่งโหนกระแสอึ้งไปเลยคือ การเปิดคลิปเสียงที่บอสพอลแอบอัดเอาไว้ในตอนที่เข้าไปเจรจาอะไรบางอย่างที่บ้านของกฤษอนงค์
หนุ่ม กรรชัย ถามว่า คุณพัชจำได้ไหมว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม บอสพอลเข้าไปคุยกับคุณพัชที่บ้าน และเขามีคลิปเสียงที่ไปคุยในวันนั้นด้วย โดยเขาไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถืออัด แต่ บอสปัน กับ บอสพอล เขาใช้เครื่องอัดเสียงแอบติดไว้ที่แฮร์พีซ (ผมปลอมที่เป็นชิ้นๆ ใช้ติดเสริมไปกับผมจริง) กับเป้ากางเกง แอบติดไว้ และคลิปเสียงยาว 7 ชั่วโมง
พัชถึงกับอึ้ง คิดไม่ถึงว่าบอสพอลจะทำขนาดนี้ และยืนยันว่าต่อให้คลิปเสียงนั้นจะยาวกี่ชั่วโมง แต่ไปเอามาฟังได้เลยว่าพัชไม่เคยเรียกรับเงิน อย่างที่ถูกกล่าวหาแน่นอน
เช่นเดียวกับนักเรียนในห้องโหนกระแส ที่อึ้ง ทั้งเรื่องคลิปเสียงยาว 7 ชั่วโมง และวิธีการซ่อนเครื่องอัดเสียง จนเกิดคำถามว่า นี่บอสพอลเป็นนักธุรกิจ หรือเป็นสายลับกันแน่
ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยตัวละครลับอีกตัว ที่เป็น “หนอน” ที่บอสพอล แอบส่งไปเข้าไปในกลุ่ม 89 คน ที่รวมตัวไปร้องเรียนกับ พัช กฤษอนงค์ เป็นคนที่บอสพอลส่งไปสืบว่า มีประเด็นไหนที่เขามาร้องเรียนบริษัท และบริษัทจะตั้งรับอย่างไร
โดย หนอน ยืนยันว่า ทางคุณกฤษอนงค์บอกว่าให้บอสพอลไปแจ้งความที่ สน.บางเขน แล้วเขาจะเอาใบแจ้งความไปแจ้งตำรวจไซเบอร์ เพื่อจะยิงเพจ เพจหนึ่งให้ปลิว โดยต้องเอาเงินสดไปจ่าย เป็นค่าดำเนินการ 3 แสนบาท มีหลักฐานเป็นแชต และมีภาพตอนบอสนั่งนับเงินเอาไปจ่ายด้วย
แล้วในตอนแรกที่มีผู้เสียหายมาร้องกับคุณพัช มีการเรียกเงิน 2 ล้าน บอกว่าจะเอาไปเคลียร์กับผู้เสียหายตัวตึงก่อน ซึ่งคุณพัชบอกว่า 2 ล้านที่ว่ามันเป็นยอดความเสียหาย ที่เราบอกให้เขาไปเคลียร์คืนผู้เสียหายก่อน มันไม่ใช่การเรียกเงินจากเขา แล้ว 2 ล้านนี้ มันก็อยู่ในยอด 8 ล้านกว่าบาท ที่ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว
แล้ว คุณกิ๊ก หนอนบ่อนไส้ ยังเล่าอีกว่า บอสปันที่ไปปรึกษาขอความช่วยเหลือจากคุณพัชที่บ้าน เขากลับมาก็ร้องไห้ให้ตนฟัง ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องหมดเงินหมดทองไปเยอะมาก แค่ไปหากฤษอนงค์ที่บ้าน ก็หมดไป 6 แสนแล้ว
ทางคุณพัชบอกว่า พอได้ฟังแบบนี้แล้วรู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะคุณปันมาหาตนที่บ้าน มาขอร้องให้ช่วย เรื่องผิดก็ว่าไปตามผิด แต่เราเห็นว่าเขากำลังเดือดร้อน ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะไปติดคุก เราก็อยากช่วยเขา แต่มันเป็นการจ้าง มันมีค่าดำเนินการ 6 แสนบาท ถ้าเขาไม่เต็มใจจะจ่าย ก็ไม่ควรต้องจ่าย ไม่ใช่จ่ายมาแล้ว แล้วมาพูดทีหลังแบบนี้ เหมือนกับเราไปขู่เอาเงินจากเขา ทั้งๆ ที่มันเป็นการจ้าง เป็นเรื่องธุรกิจ
คุณกิ๊กยังเล่าอีกว่า มีอีกหลายคนที่มาเรียกเอาเงิน มาตบทรัพย์จากดิ ไอคอน แม้แต่คนที่เป็นข่าวดัง ตนก็เคยเจอ เคยคุย เขามาก็มาเรียกเอาเงินหลักแสน โดยเวลารับเงิน เขาให้โอนเข้าบัญชีม้า ซึ่งเป็นชื่อบัญชีของคนอื่นอีกที
สุดท้าย คุณพัชบอกว่า ขอใช้สิทธิตามกฎหมายในการปกป้องตัวเอง จะยื่นฟ้องทนายวิฑูรย์ ทนายของบอสพอล ที่ออกมาพูดทำให้ตนเสียหาย เรื่องรีดทรัพย์ 10 ล้านที่ไม่เป็นความจริง โดยไม่มีหลักฐาน
โดยสุดท้าย คุณพัชยืนยันว่า ตัวเองก็ทำสำนักงานกฎหมาย ทำธุรกิจ อะไรที่เป็นธุรกิจ ต้องจ่ายเงิน จ่ายค่าดำเนินการมันก็ต้องจ่าย สำนักงานกฎหมายทุกสำนักในประเทศลองตอบหน่อยว่า คิดค่าดำเนินการเท่าไหร่ ตนก็เป็นสำนักงานกฎหมายเหมือนกัน ทำธุรกิจเหมือนกัน กินข้าวเหมือนกัน ไม่ได้กินหญ้า ผู้เสียหายที่เราช่วยก็คือช่วย แต่มันผิดที่มันมาใกล้ชิดกัน ในส่วนธุรกิจกับการช่วยเหลือ มันก็เลยเป็นบทเรียนของตนในวันนี้
ที่มา : โหนกระแส