บิ๊กเต่า เผยคดีนักร้องเรียน กฤษอนงค์ สัปดาห์นี้จะมีความชัดเจน เตรียมเรียก ‘แม่’ ของสามารถสอบปากคำ หลังพบเส้นเงิน 6 เดือนโอนจากบัญชีบอสพอล เล็งตรวจสอบมีผู้เสียหายดิไอคอนร้องทนายตั้มจริงหรือไม่ หลังเรียก 7.5 ล้าน ลั่น ‘เอก สายไหมฯ’ เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดีเรียกรับเงินจากผู้ต้องหาคดีดิไอคอน ว่า วันนี้มีประชุม 4 เรื่องเป็นหลัก เรื่องแรกคือกรณี น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ นักร้องเรียนหญิง ปมคลิปเสียงเรียกเงิน ในตอนนี้เนื้อหาพยานหลักฐานคืบหน้าไปเยอะแล้ว หลังจากนี้จะสอบปากคำพยานเพิ่มอีกสองปากเพื่อยืนยันหลักฐาน คาดว่าภายในอาทิตย์นี้จะมีความชัดเจน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่สองเป็นกรณีนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ซึ่งเป็นนักการเมือง ขณะนี้พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงแล้ว แต่ยังรอคำสั่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล รอไทม์ไลน์ตามหลักฐานเป็นตัวตั้ง แม้ผู้เสียหายไม่อยากดำเนินคดีกับนายสามารถ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินคดี แต่จะเป็นอย่างไรคงต้องรอดู เพราะมีคลิปเสียงเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งจะเข้าข่ายความผิด ม.148 ของ ป.ป.ช.หรือไม่ หรือจะเป็นเรื่องกรรโชกทรัพย์ คงต้องคุยกับนักกฎหมายอีกครั้งให้ชัดเจน
รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีแม่ของนายสามารถ จากการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังสองปี ปรากฏว่า มีเส้นเงินโอนจากบัญชีบอสพอลเข้ามากว่า 600,000 กว่าบาท ก็กำลังตรวจสอบย้อนหลังอีกหลายปีว่ามียอดตรงไหนเพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่ รวมถึงเรื่องราวร้องเรียนที่เกิดขึ้นว่ามีการนัดเคลียร์เจรจากันหรือไม่ หลังจากนี้อาจจะเรียกแม่ของนายสามารถมาให้การด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวอีกด้วยว่า ส่วนกรณีของ “เอก สายไหมต้องรอด” ตอนนี้สอบพยานไว้มากพอสมควรแล้ว เบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนพยานเท็จต้องขอประชุมอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนมองในเจตนาเป็นหลัก หลังจากนี้ให้มันจบเป็นเรื่องๆ ไป ขณะที่คดีของทนายตั้ม ที่มีน้องสาวของทนายตั้มเอาหลักฐานของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัทดิไอคอนมาประมาณ 60 กว่าคน มายื่นเป็นหลักฐาน ตั้งแต่วันที่ 1-14 ตุลาคม 2567 กำลังตรวจสอบความเสียหายจริงว่าผู้เสียหายติดต่อบริษัทษิทรา ลอว์เฟิร์ม จริงหรือไม่อีกด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามก็ต้องมาดูเจตนารมณ์เป็นหลักว่าในช่วงที่เรียกเงิน 7.5 ล้านบาทจากบอสพอลนั้น ผู้เสียหายเข้ามาขอความช่วยเหลือเองหรือไม่ หรือเรียกตัวไปอย่างไร โดยจะต้องดูด้วยว่าผู้เสียหายได้ว่าจ้างให้ทนายตั้มมาช่วยทำคดีหรือไม่ หรือเป็นค่าช่วยเหลืออะไร ซึ่งวันพุธนี้ (13 พฤศจิกายน 2567) จะมีการประชุมกันอีกครั้ง
“ทั้งนี้ผมยืนยันตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่ชมรม หรือกลุ่มที่ตั้งมาช่วยเหลือแต่กลับไปเรียกทรัพย์สินจากผู้เสียหาย ทาง ตร.อยากให้ใช้ตำรวจให้เป็นประโยชน์และทำงานให้อยู่แล้ว ส่วนเพจ หรือชมรมต่างๆ ที่ตั้งใจทำเพื่อส่วนรวมก็ต้องขอขอบคุณด้วยเช่นเดียวกัน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว