เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ พานางอารีรัตน์ ชมโลก มารดาของนายธีรพงศ์ หรือปอนด์ ฐิตะฐาน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่น 18 คน บุกเข้าไปรุมทำร้ายในหอพัก และใช้ไขควงแทงศีรษะเสียชีวิต เดินทางเข้าพบนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม และนางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอให้พิจารณาการช่วยเหลือ คือ 1.มาตรการคุ้มครองพยาน และ 2.เงินเยียวยา ช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีอาญา
นายสงกานต์กล่าวว่า ในวันนี้ได้พานางอารีรัตน์ มายื่นเอกสารหลักฐาน เพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรมจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือเรื่องการคุ้มครองพยาน และเรื่องค่าเสียหายในคดีอาญาด้วย สำหรับหลักฐานที่นำมายื่นในวันนี้ เป็นช่วงหนึ่งของบทสนทนาข้อความในเฟซบุ๊กจากเพื่อนของหนึ่งในผู้ต้องหา ที่แจ้งว่ามีบุคคลอ้างวิธีไม่ให้ถูกดำเนินคดี ด้วยการให้ผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ปฎิเสธข้อกล่าวหาในชั้นพนักงานสอบสวน และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น จึงได้นำหลักฐานตรงนี้มายื่นให้กับกระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาเรื่องของการคุ้มครองผู้เสียหายในฐานะพยาน อีกทั้งในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ตนจะนำหลักฐานดังกล่าว ยื่นให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. อีกด้วย
นายสงกานต์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 18 ราย มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ไม่เกินเวลา 12.00 น. ส่วนเรื่องจะประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่ส่วนตัวจะเตรียมพยานหลักฐานอย่างแน่นหนา เพื่อใช้ในการคัดค้านการประกันตัว ดังนั้นขอให้ผู้ก่อเหตุทั้ง 18 ราย ให้การกับพนักงานสอบสวน บก.ป.ด้วย เพราะการปฏิเสธจะไม่เป็นผลดีต่อผู้ก่อเหตุเอง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ จะมีพยาน 4 ปาก เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ป.ด้วย พยานจำนวนนี้ยังไม่เคยให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มาก่อนด้วย ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่า 18 ผู้ก่อเหตุดังกล่าว เป็นลูกหลานของตำรวจ ทหาร และนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่เกิดเหตุด้วย ถือเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ดังนั้นการเข้ายื่นเรื่องในวันนี้ เนื่องจากมีเรื่องของผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเกรงว่าครอบครัวผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้านนางอารีรัตน์กล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่ติดตามและช่วยนำเสนอข่าวของลูกชาย ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น หลังเกิดเหตุ สังเกตเห็นว่ามีผู้ขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่ละแวกบ้าน จึงเกรงว่าอาจไม่ได้รับความปลอดภัย
ด้าน นายธวัชชัยกล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะรับเรื่องดังกล่าวไว้ เบื้องต้นทราบว่ายุติธรรมจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์เข้ามาดำเนินการเรื่องนี้แล้ว โดยในวันที่ 28 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จําเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 จะมีการพิจารณาว่าทางกระทรวงยุติธรรมจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง ส่วนมาตรการคุ้มครองพยานนั้น เป็นหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิฯ ที่จะต้องพิจารณาว่าจะให้การช่วยเหลืออย่างไร ทั้งนี้ หากครอบครัวต้องการให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือในเรื่องของทนายความ สามารถติดต่อมายังกองทุนยุติธรรมได้ ทางเรายินดีออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ทั้งค่าเดินทางและค่าทนายความ เพราะการดำเนินการดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือผู้ยากจนและผู้ที่ไม่มีทนายความในการต่อสู้คดี
ด้านนางนงภรณ์กล่าวว่า หลังรับเรื่องแล้ว กรมคุ้มครองสิทธิจะต้องขอพิจารณาข้อมูลที่ได้รับจากทางครอบครัวผู้เสียหายก่อน ว่าจะสามารถคุ้มครองพยานอย่างไรได้บ้าง อีกทั้งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. จัดชุดคุ้มครองพยานแล้ว อาจจะเป็นการทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือถ้ายังไม่มีการคุ้มครองพยาน ทางเรายินดีจัดเจ้าหน้าที่ดูแล จะต้องดูว่า มีความจำเป็นที่ต้องให้พยานไปพักอาศัยอยู่ที่เซฟเฮาส์หรือยังสามารถพักอยู่ที่บ้านของตัวเองได้ การพิจารณาเราจะดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้หากพยานที่ต้องเข้ารับการคุ้มครองพยานอาจจะต้องถูกริดรอนสิทธิบางประเภทด้วย เช่น พยานที่อยู่ในการคุ้มครองพยานจะต้องงดใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเอง และหากต้องการติดต่อออกไปยังภายนอก จะต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจะสามารถทำได้
