เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 ม.ค กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธานพิธีมอบเงินมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้เสียหายและทายาทผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยที่ตนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคดีสะเทือนขวัญและได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 จำนวน 6 ราย
1.กรณีน.ส.ณัฏฐ์ธมน ธนไตรสิทธิ์ อายุ 18 ปี ถูกคนร้ายใช้ปืนยิงผิดตัวจนตาบอดทั้ง 2 ข้าง มอบเงินให้ 103,000 บาท 2.กรณีนายบัญญวัติ สืบสำราญ อายุ 15 ปี ลูกจ้างติดจานดาวเทียม ถูกสุนลูกหลงยิงทะลุกระจกรถยนต์มาทะลุหน้าผากเสียชีวิต มอบเงินให้ 100,000 บาท 3.กรณีนายสมชาย สอาดจิตร์ อายุ 28 ปี พนักงานส่งของถูกคนร้ายชิงทรัพย์และรุมทำร้ายจนตาย มอบเงินให้ 100,000 บาท 4.กรณีน.ส.ภาณุรัตน์ บุญจรัส อายุ 22 ปี ถูก 4 คนร้าย ชิงทรัพย์และใช้มีดฟันแขนบาดเจ็บ มอบเงินให้ 43,8000 บาท 5.กรณีนางนันท์นภัส เป็นกล อายุ 39 ปี บาดเจ็บจากเสาโครงเหล็กเต้นท์หน้าห้างสยามพาราก้อนทรุดตัวแล้วล้มทับบาดเจ็บ มอบเงินให้ 48,400 บาท และ6.กรณี ด.ช.ณัฐวรรธน์ เฮงพระพรหม อายุ 6 ขวบ มารดาพาไปเที่ยวงานวันเด็ก หน้าสยามพาราก้อน แล้วโครงเหล็กเต้นท์ล้มทับบาดเจ็บ มอบเงินให้ 20,000 บาท รวมมอบเงินทั้งหมด 415,200 บาท
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ย้ำเสมอว่าผู้ที่เป็นผู้เสียหายคดีอาชญากรรม โดนลูกหลง จนบาดเจ็บและเสียชีวิตต้องได้รับการเยียวยา ส่วนกรณีน.ส.ณัฏฐ์ธมน ที่โดนกระสุนยิงตาบอด 2 ข้างนั้น ใครเป็นพ่อแม่คงทำใจไม่ได้ ไม่ควรเกิดกับครอบครัวไหนทั้งสิ้น จะให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าไปช่วยเหลือดูและการรักษาระยะยาว เนื่องจากต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก และให้กระทรวงแรงงานเข้าไปดูแลเรื่องจัดหางานที่เหมาะสมให้ ส่วนกระทรวงยุติธรรม จะแก้กฏหมายและให้ พ.ร.บ.เยียวยาเหยื่ออาชญากรรมฯให้เข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง คาดมีชาวบ้านอีก 60-70 ล้านคน ที่ยังเข้าไม่ถึงความยุติธรรม สามารถไปไปติดต่อที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอนั้นๆได้เลย จากนี้จะพยายามให้สามารถไปยื่นเรื่องต่อกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลและชนบทเข้าถึงง่ายขึ้น ผู้เสียหายคดีอาญาแผ่นดิน แผ่นดินต้องดูแลและรับผิดชอบ