เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวหลังการประชุมติดตามสถานการณ์และการติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาคดีสมคบฟอกเงิน ว่า ขณะนี้การดูแลโดยรอบวัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่จะเน้นความปลอดภัยในพื้นที่ มอบหมายให้ชุดทำงานที่มีการแต่งตั้งไป3หน่วยงาน คือ ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี สำนักพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยภายในวัด จะให้ไปดูตามคำสั่งที่13/2560ว่า ลูกศิษย์ที่เข้าไปในวัดมีการปฏิบัติตัวผิดคำสั่งหรือไม่ เช่น การปิดบังใบหน้า การเชิญลูกศิษย์ให้มาสวดมนต์ภายในวัด จะต้องดูเจตนาและเงื่อนไขในคำสั่ง
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทางวัดพระธรรมกายนำเพลงจากศิลปินหลายค่ายมาดัดแปลงเนื้อหา ขณะนี้ให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปดูว่าเข้าข่ายการปลุกระดมหรือไม่ หากเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องการเอาผิดสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ สำหรับบุคคลที่มีการออกหมายเรียกไปแล้วนั้น คำสั่งที่ออกไปแม้มีการยุติการเข้าค้นวัดพระธรรมกายแล้ว ก็ยังคงมีผลทางกฎหมายอยู่ ขณะนี้มีมารายงานตัวส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังคงเหลืออีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้ามารายงานตัว
รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทางวัดไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวภายในพื้นที่นั้น ขอให้วัดพิจารณาดูว่าจะเป็นผลดีหรือผลเสียกับวัดมากกว่ากัน อย่างไรก็ตามการทำงานตอนนี้เน้นเรื่องการข่าวเป็นหลัก จะให้ชุดปฏิบัติหน้าที่มารายงานผลทุกวันในเวลา10.00น. ทั้งนี้ ล่าสุดวันนี้ได้รับรายงานว่ามีการออกหมายจับพระธัมมชโย เพิ่มอีก 1 ข้อหา คือข้อหาขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ไม่มารายงานตัวตามหมายเรียก
