อาการของเด็กทารก ที่ถูกแทงเป็นแผลฉกรรจ์ ตารมร่างกายรวม 14 แผล และถูกนำมาฝั่งดินในเขตอำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น ยังคงวิกฤติแพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ขณะที่ตำรวจพื้นที่กระจายกำลังออกสืบสวนคอบคลุม 3 อำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. หลังจากมีชาวบ้าน ไปพบเด็กทารกเพศชายแรกเกิด ถูกแทงตามร่างกายเป็นฉกรรจ์ รวม 14 แผล และถูกนำมาขุดดินฝัง ที่ป่าบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 3 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ และถูกนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น อาการล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ นายแพทย์ ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น เผยถึงอาการของทารกนี้ยังอยู่ในขั้นวิกฤต มีไข้ต่ำๆ ต้องเฝ้าอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า แพทย์เฝ้าสังเกตอาการของเด็กตลอด 24 ชั่วโมง และจากบาดแผลฉกรรจ์ ในหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณปอดที่มีรูบาดแผลซึ่งอาการวันนี้ดีขึ้นมาบ้างแล้ว และยังพบบาดแผลที่ถูกของมีคมแทงเฉียดหัวใจ ซึ่งทางทีมแพทย์ที่ให้การรักษา พร้อมคณะได้มีการประเมินอาการ พร้อมมีความพยายามที่จะถอดเครื่องช่วยหายใจออก เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจนั้น จะทำให้แรงดันลมของเครื่องช่วยหายใจทำให้มีลม ออกทางช่องแผลที่บริเวณปอดตลอด อย่างไรก็ตามต้องดูที่อาการของเด็กว่าจะสามารถหายใจได้เองหรือไม่ ส่วนบาดแผลในจุดอื่นๆ ไม่มีการไหลออกของเลือดแล้ว และไม่มีการติดเชื้อบริเวณบาดแผล จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แพทย์ จะยังคงให้ยาฆ่า เชื้อโรค 3 ตัวหลัก เพื่อป้องกัน เพื่อให้ครอยคลุมเชื้อทุกชนิดที่อยู่ในดิน และป้องกันภาวการณ์ติดเชื้ออย่างเฉียบพลัน ที่จะทำให้อาการโดยรวมของเด็กทารกทรุดลงได้
นายแพทย์ ชาญชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเชื่อว่า ทารกไม่ได้ผ่านการทำคลอด จากโรงพยาบาล สังเกตจากสายรกบริเวณสะดือของเด็ก ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการตัดโดยวิธีทางการแพทย์ ซึ่งหากเด็กคลอดจากโรงพยาบาล หรือ โรงพยาบาลส่งเริมสุขภาพประจำในแต่ละตำบล สะดือจะต้องมีอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่ที่สะดือเด็ก จึงทำให้มั่นใจว่าเป็นการคลอดเองโดยธรรมชาติ
ด้าน พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยง ผกก.สภ.แวงใหญ่ กล่าวว่า ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวผู้ลงมือทำร้ายเด็กทารกรายนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แวงใหญ่ ได้ประสานกำลังตำรวจ กองกำกับการสืบสวน สอบสวน ในเขตอำเภอใกล้เคียง ประกอบด้วย สภ.แวงน้อย สภ.เมืองพล และสภ.ชนบท จ.ขอนแก่น กระจายกำลังออกสืบหาหญิงที่คาดว่า จะเป็นมารดาของเด็ก และเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ มาสอบสวน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบเบาะแสแต่อย่างใด
