“เฉลิม”เบิกความจำนำข้าว ระบุไม่รู้จัก”เจ๊ ด.”ยัน“นายกปู”ติดตามสอบทุจริตเข้มข้น ถึงขั้นปลด“บุญทรง”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีจำนำข้าว พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ไต่สวนพยานจำเลยในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อายุ 49 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า5แสนล้านบาท

เฉลิม2

วันนี้ทนายจำเลยนำพยานขึ้นเบิกความรวม3ปาก ได้แก่ นายพิชัย ชุนหวชิร ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายข้าว และอดีตประธานกรรมการบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), พ.ต.อ.ธนกฤต อ่อนละออ รอง ผกก.สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เกี่ยวกับการดำเนินคดี และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว โดย นายพิชัย เบิกความยืนยันเกี่ยวกับหลักการปิดบัญชีมีความสอดคล้องกับฤดูการผลิต ส่วนการกำหนดราคาจำนำข้าวที่สูงกว่าราคาตลาดจะมีความเสียหายหรือไม่นั้นต้องเปรียบเทียบกับประโยชน์ด้านอื่นควบคู่ เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการสาธารณะ

เฉลิม3

Advertisement

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เบิกความว่า หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงนโยบาย วันต่อมาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือท้วงติงโครงการรับจำนำข้าวมาถึงรัฐบาล จึงตั้งข้อสังเกตไปว่าเขียนข้อท้วงติงในเวลาไหน ขณะที่กำลังจะเริ่มโครงการนั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหนังสือแนะนำอีกให้รัฐบาลยุติโครงการรับจำนำข้าว แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นำเรื่องไปปรึกษาข้อกฎหมายกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนผลงานวิจัยทีดีอาร์ไอ ที่ป.ป.ช.นำมาอ้างไม่มีความน่าเชื่อถือ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจกำหนดนโยบายของรัฐบาลได้ เพราะนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาจะมีผลผูกพันต่อรัฐสภา รัฐบาลจึงไม่สามารถยกเลิกโครงการได้ ความเห็นดังกล่าวเป็นการตอบคำถามของรัฐบาลในที่ประชุม แต่ไม่มีการบันทึกไว้ ส่วนที่มีการตั้งกระทู้ถามเรื่องการระบายข้าวหลายครั้งในการอภิปรายในสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ทุกครั้ง แต่จำไม่ได้ว่ามีครั้งไหนบ้าง และในการประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์สั่งการให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ขณะนั้น เป็นผู้รับผิดชอบการระบายข้าว ดำเนินการตรวจสอบประเด็นที่มีการอภิปรายหากพบว่ามีความผิดก็ให้จับกุม อย่าไปหวาดกลัวกลุ่มอิทธิพล และรายงานต่อที่ประชุม ครม.ทุกครั้ง

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ส่วนที่ ป.ป.ช.มีหนังสือแจ้งให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ตนไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ แต่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์, คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีภารกิจโดยตรงรับผิดชอบตรวจสอบ หลังสั่งการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยให้รายงานผลการตรวจสอบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบการทุจริตระบายข้าวแล้ว ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนตรวจสอบทุจริตระบายข้าวควบคู่กันไป ดังนั้นตนจะไปแย่งหน้าที่นี้ได้อย่างไร โดยตนไม่รู้จักบริษัท สยามอินดิก้า และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ส่วนการตรวจสอบ นายบุญทรงได้รายงานในที่ประชุม ครม.ทางวาจาว่าไม่พบการทุจริต แต่หลังจากนั้นไม่นาน คณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. มีความเห็นว่าคดีมีมูล กระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคำสั่งปลดนายบุญทรงออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีข้อบกพร่อง ถ้าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดคงไม่มีการปลด

“ผมยึดหลักตรงๆ เรื่องนี้ชาวบ้านเขาชอบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้ข้าวมาก็เอาเงินไป รัฐบาลก็มองด้วยเจตนาดี ส่วนการเร่งระบายข้าวที่ค้างสต๊อก จำเลยไม่ได้สั่งการให้ผมรับผิดชอบ แต่ท่านสั่งให้ระวังการนำข้าวเข้ามาจากชายแดน และผมยังตั้งกองบัญชาการป้องกันตรวจสอบการทุจริตโครงการจำนำข้าว11กอง รวมถึงนครบาลด้วย เนื่องจากมีเขตพื้นที่ๆยังปลูกข้าวอยู่ โดยสามารถจับกุมดำเนินคดีได้251คดี หากพบการทุจริตในส่วนของการระบายข้าว ผมต้องจับกุมมาดำเนินคดีให้หมด” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

Advertisement

ส่วนที่อัยการซักถามเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่บอกว่าเล็กใหญ่จับหมด และคนที่เอี่ยวทุจริตจำนำข้าวจีทูจีเป็นเด็กเจ๊ ด. และถามว่าตลอดระยะเวลาที่เป็นรัฐบาล 2ปี8เดือน จำเลยได้สั่งการดำเนินคดีกับบริษัทสยามอินดิก้า และเสี่ยเปี๋ยงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม เบิกความตอบว่า ต้องถามว่าเจ๊ ด.ไหน ตนไม่รู้จัก ยืนยันว่าไม่มี ที่ให้สัมภาษณ์ไปหรือไม่นั้นจำไม่ได้ และคำว่าเจ๊ ด. คือใคร พวกพรรคประชาธิปัตย์พูดบ่อย อิงคำพูดประชาธิปัตย์มาก ส่วนที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายและมีการเปิดภาพเสี่ยเปี๋ยงเดินตามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งนั้น ตอนนั้นนายทักษิณมีอำนาจ ใครๆ ก็อยากเดินด้วย งตนไม่ได้ไป แต่ถ้าตนไปด้วยแล้วมีรูปถ่ายจะผิดด้วยหรือ ส่วนเรื่องการดำเนินคดี ตอนนั้นรัฐบาลไม่มีที่นั่ง ถูกผู้ชุมนุมเป็นแสนเป่านกหวีดขับไล่ นายกฯ ถูกบุกบ้าน การเลือกตั้งก็เป็นโมฆะ แม้แต่ตนก็ต้องหนี โดยปีนออกทางด้านหลังกระทรวงแรงงานเมื่อถูกผู้ชุมนุมล้อม

ภายหลัง ร.ต.อ.เฉลิม ได้ขออนุญาตศาลแถลงเพิ่มเติมว่า หลังจากมีการปฏิวัติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับอนุญาตจาก คสช. ให้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นพร้อมบุตรชายเป็นเวลานาน ถ้าหากคนมีส่วนร่วมในการกระทำผิด ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต ไม่มีจิตสำนึก จะกลับมาหรือ

หลังพยานจำเลยเบิกความเสร็จสิ้นทั้ง3ปาก ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งต่อไปในวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 9.30 น.

โดย ร.ต.อ.เฉลิมได้ออกมาทักทายกับเจ้าหน้าที่เเละผู้มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อนเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image