ตำรวจไซเบอร์จับบุหรี่ไฟฟ้า หัวพอต น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 20,198 ชิ้น
เมื่อวันที่ 22 มกราคม พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รรท. รอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ รรท.ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ศุภกร ผิวอ่อน รรท.ผบก.สอท.5 แถลงข่าวจับกุมนายประดิษฐ์ อายุ 43 ปี และ น.ส.วาทิณี อายุ 49 ปี พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า และ หัวพอต น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 20,198 ชิ้น
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สายตรวจไซเบอร์ตรวจสอบพบไลน์ ชื่อ “Peaceful” มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ จึงได้วางแผนทำการล่อซื้อ และทำการสืบสวนก่อนนำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 35-36/2568 ลงวันที่ 21 มกราคม 2568 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 1 ถ.เลียบคอลง 7 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ก่อนทำการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามฝากเตือนพี่น้องประชาชนบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ถูกลักลอบนำเข้าและมีการจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จึงไม่ได้ผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามกฎหมาย โดย “กรณีผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตามมาตรา 20 แห่งพ.ร.บ. การส่งออกไปนอกและการนำเข้าฯ พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงินห้าเท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดฯ นั้นด้วย และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีผู้ครอบครองหรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า”เป็นความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดฯ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง แห่งพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน4 เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
