ผบ.ตร. แจงขั้นตอน ปราบยาเสพติด พร้อมเป็นด่านสองรับไม้ต่อจากทหาร ระบุได้ผู้ต้องหาเพิ่มกว่า 3 หมื่นราย เตรียมขยายผลยึดทรัพย์
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ตึกสันติไมตรี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวในการมอบนโยบายตามปฎิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดว่า กระบวนการค้ายาเสพติดยังมีวงจรลักษณะเดิมคือลำเลียงผ่านแนวชายแดนมายังจุดพักยาและมีการลำเลียงผ่านเส้นทางต่างๆทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เข้าสู่จังหวัดตอนในและกระจายผ่านพ่อค้าคนกลาง
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตำรวจถือเป็นด่านที่สอง ต่อจากด่านแรก คือ การสกัดของทหารตามแนวชายแดน โดยจะจัดให้มีการทำฐานข้อมูลปิดล้อมตรวจค้นเฝ้าระวังปราบปรามจะนำข้อมูลมากำหนดเป็นเป้าหมายซึ่งต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นแต่ตำรวจคงไม่สามารถดำเนินการได้โดยลำพังจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทหารและฝ่ายปกครองเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับสถานที่พักยา หากสามารถหลุดมาได้จากชายแดนจะจัดทำฐานข้อมูลสร้างความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสจากนั้นจะนำไปสู่การสกัดการเส้นทางลำเลียงโดยกำหนดแผนตั้งด่านเฝ้าระวังบุคคลยานพาหนะและสร้างความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการระบบขนส่ง ประกอบกับการใช้เครื่องมือพิเศษที่ได้เพิ่มเติมจากรัฐบาลเช่นอุปกรณ์ประจำตัวหรือเครื่องมือต่างๆไปสู่การพิเคราะห์ติดตามตลอดเส้นทางการลำเลียงจากนั้นจะเพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนปราบปรามซึ่งตรงนี้ขอเน้นย้ำให้สถานีตำรวจทุกแห่งตามเป้าหมายดำเนินการอย่างเข้มข้นรวมถึงการประสานงานกับเพื่อนบ้านเพื่อนำไปสู่การจับกุมขยายผล ดำเนินคดียึดทรัพย์
“จากการเริ่มจากปฏิบัติการในครั้งนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30,000 ราย แล้วสุดท้ายที่ตำรวจจะดำเนินการตามแผนนี้คือการบำบัดและสร้างชุมชนเข้มแข็งเพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยในที่สุด”ผบ.ตร.กล่าว