ตำรวจไซเบอร์ ยันเหตุยิงในเมืองชเวก๊กโกเป็นเฟคนิวส์ จ่อเอาผิดมือโพสต์ปล่อยข่าว สั่งมอนิเตอร์ทุกแพลตฟอร์มเชือดเฟคนิวส์-เงินกู้-เว็บพนัน ปิดกั้นไปแล้วกว่า 100 ยูอาร์แอลต่อวัน เสนอ “ดีอี” ปิดกั้นแอพพ์ Jagat หลังมหาดไทยยัน เสี่ยงโชคผิดกฎหมาย ประสานธปท.เอาผิด11 แอพพ์เงินกู้ เถื่อน
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการโพสต์ข้อความว่ามีเหตุยิงกันบริเวณชายแดนพม่า และเมืองชเวก๊กโก โดยเชื่อว่าเป็นทางการจีนเข้าไปจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมีการตำหนิทางเจ้าหน้าที่รัฐของไทยนั้น ว่า ในเรื่องนี้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและเฟคนิวส์ของ กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ ได้ทำการตรวจสอบพบว่าไม่ได้มีเหตุการณ์ตามที่มีการโพสต์ขึ้นมาและแชร์ต่อๆกัน ในเรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบพบว่ามีความผิดเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมาย พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ในการเผยแพร่ข่าวเท็จ และก่อให้ก่อเกิดความเสียหาย จึงอยากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในการที่จะแชร์โพสต์ต่างๆให้ใช้ความรอบคอบและพิจารณาข้อความที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ เพราะถ้าท่านแชร์ต่อก็จะก่อให้เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายด้วย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการปิดกั้นเว็บไซด์ที่ผิดกฎหมาย หลอกลงทุน เงินกู้ การพนัน ไม่ต่ำกว่า 100 ยูอาร์แอลต่อวัน ในทุกช่องทางสื่อออนไลน์ อย่างไรก็ตามการปิดกั้นจากผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะอยู่ต่างประเทศก็จะต้องมีระยะเวลา และมีหลักเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งก็การขอปิดกั้นอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดได้มีการปิดกั้นแอพพลิเคชั่น JARGAT ที่ให้ทำกิจกรรล่าเหรียญจนทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งล่าสุดได้รับหนังสือตอบกลับจากกระทรวงมหาดไทยแล้วว่าแอพพ์ดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาตในการจัดกิจกรรม เข้าข่ายพระราชบัญญัติการพนัน ซึ่งได้ทำหนังสือถึงกระทรวงดีอีเพื่อให้ปิดกั้นแอพพ์ไปแล้ว
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ในส่วน 22 เว็บอันตรายหลอกลวง ตามที่เคยประชาสัมพันธ์ไปแล้วว่าเป็นเว็บที่มีการหลอกลวง และเสนอไปทางผู้ให้บริการซึ่งอยู่ต่างประเทศ ให้มีการปิดกั้นแต่ยังไม่ได้มีการปิดกั้น ส่วนนี้ตนได้มีการให้นโยบายในเรื่องของการติดตามความคืบหน้าการเสนอปิดกั้นและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบเพื่อไม่ให้มีเหยื่อรายใหม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับกรณีที่ทางดีอี ตรวจพบ 11 แอพพ์เงินกู้ มีการให้บริการติดตั้งในเพลย์สโตร์ และส่งข้อมูลให้ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทยตรวจสอบนั้น ทางตำรวจไซเบอร์ได้มอบหมายพล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ รรท.รองผบช.สอท. เข้าไปดำเนินการตรวจสอบควบคู่ขนานกันไป หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการปิดกั้นตามขั้นตอนของกฎหมาย