เยี่ยมบ้านพ่อแม่ ‘พรีม’ สาดน้ำร้อน น้ำตาซึม ยืมเงินส่งลูกเรียน ไม่เคยรู้เป็นแบบนี้ ช็อกซ้ำ เงินจ่ายค่าเทอมไปก็ไม่เข้ามหาวิทยาลัย เผย เพิ่งรู้ความจริงอีกเรื่อง
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ให้การช่วยเหลือ น้องเฟิร์น (นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มของนายรษิภา หรือพรีม อายุ 22 ปี มือสาดนํ้าซุป ทําร้ายร่างกาย
พร้อมเปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องสาดนํ้าซุป ตํารวจได้ไล่จับกุมผู้กระทําผิดประมาณ 9 คน ส่งฝากขังศาลเข้าเรือนจําไปแล้วนั้น ปรากฏว่าน้องเฟิร์นเห็นคลิปที่ตัวเองถูก “โอชิ” ทําร้ายร่างกายโพสต์ลงโซเชียล จึงติดต่อขอความช่วยเหลือมาที่ตนเอง
- พ่อแม่พรีม มือสาดน้ำร้อน ขอโทษสังคม เลี้ยงลูกไม่ดีพอ ไม่ขอยื่นประกัน แม่เหยื่อยัน ‘ไม่คุย ไม่จบ’
- แม่ แอนดริว หลั่งน้ำตา ลูกถูกรังแก แพรี่ ซีด กลัวคุก พีม มือสาดร่ำไห้ ถูกหักหลัง
- เปิดคลิปเสียง พรีมโทรหาเพื่อนเหยื่อ ผุดแพคเกจสุ่มดวง ให้กินน้ำยาล้างห้องน้ำ-ไซยาไนด์
ต่อมา กัน จอมพลัง ได้ลงพื้นที่ไปยังห้องพักของพ่อและแม่นายพรีม ในพื้นที่คลองเตย พร้อมพูดคุยให้กําลังใจและสอบถามความเป็นมา เนื่องจากทราบว่าแม่เป็น FC ของกัน จอมพลัง
แม่ของนายพรีมกล่าวว่า ทั้งพ่อและแม่เป็นเอฟซี กัน จอมพลัง ดูไลฟ์สด ติดตามตลอด หลังเกิดเรื่องมีทัวร์ลงเยอะ ซึ่งตนก็ยอมรับสภาพเพราะลูกทําผิดจริง
ด้าน กัน พูดกับพ่อแม่ว่า ส่วนตัวสงสารและเข้าใจความรู้สึกพ่อแม่ วันนี้ที่ตนมา อยากจะบอกทุกคนว่าพ่อกับแม่ของพรีมนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงขอร้องสังคมอย่าไปโจมตีพ่อแม่เลย ตนเห็นใจพ่อแม่พรีม ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเลี้ยงลูกให้เป็นคนที่ไปสร้างปัญหาให้คนอื่น ตนเชื่อว่าพ่อแม่เลี้ยงดูอย่างเต็มที่แหละ
กันได้สอบถามพ่อกับแม่พรีมว่า ปกติพรีมได้อยู่กับพ่อแม่บ้างไหม ได้เจอกันบ่อยไหม แม่พรีมจึงเล่าให้ฟังว่า ไม่ค่อยได้เจอกันหลังลูกย้ายออกไปอยู่หอ จะเจอกันเดือนละครั้งหรือเดือนกว่าๆ โดยแม่จะเอาของไปให้บ้าง เมื่อก่อนเคยขึ้นไปหอเขา
แม่กล่าวต่อว่า แต่พอเขาย้ายหออีกรอบก็ไม่ค่อยมาเจอ มักจะให้ตนเอาของวางให้ข้างล่างแล้วเดี๋ยวเขาจะลงมาเอาเอง บางทีเขาก็บอกว่าไม่อยู่หอ ไปทำงานกับเพื่อนบ้าง อยู่ข้างนอกบ้าง ซึ่งพ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน แต่พ่อจะไม่ค่อยได้ไปเจอพรีม จะเป็นแม่ที่ไปเจอพรีมมากกว่า
แม่กล่าวอีกว่า พรีมจะคุยกับแม่บ่อยกว่า ไม่ค่อยสนิทกับทางพ่อ แต่ตัวพ่อพรีมเองก็ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาทะเลาะอะไรกันกับพรีม แค่พ่อมักจะบอกพรีมว่า ให้เรียนดีๆ เรียนให้จบ อยากให้จบไวๆ จะได้ไม่เหนื่อย
กันกล่าวเสริมว่า พรีมเล่าให้ตนฟังว่าอยู่กับแม่แต่ไม่ได้อยู่กับพ่อ แม่พรีมจึงอธิบายว่า พ่อเขาไปทำงานเช้าแล้วกลับดึก จึงไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับลูก ส่วนแม่จะไปไหนมาไหนด้วยกันกับพรีมตั้งแต่เล็กจนโต พ่อจะเป็นคนให้เงินแม่กับลูกไปเดินเล่นห้างกัน
โดยตลอดระยะเวลาที่เรียนมหา’ลัย พรีมก็ไม่เคยส่งเงินมาให้พ่อแม่ แต่ด้วยความที่ค่าเทอมค่อนข้างสูง แม่ก็ต้องยืมเงินบริษัท ยืมเงินคนอื่นบ้าง เพื่อส่งลูกเรียน ซึ่งแม่ยืนยันว่าอยากเติมเต็มให้ลูก เห็นลูกอยากเรียนก็สนับสนุนเต็มที่ อยากให้ลูกมีอนาคต
เพราะว่าการเรียนเขาค่อนข้างดีตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เป็นเด็กเกเรให้เห็น หรือไม่เคยมีเรื่องอะไรที่บ้านมาก่อนเลย ตอนเด็กๆ พรีมก็จะไม่ค่อยออกไปเล่นกับเพื่อนฝูงแถวบ้าน กลับมาก็จะอยู่แต่บ้านมากกว่า
ตอนเพื่อนพรีมไปเยี่ยมที่โรงพัก แม่ก็ถามเพื่อนๆ พรีมว่าพรีมมีพฤติกรรมเป็นยังไงบ้าง เพราะที่ผ่านมาพ่อกับแม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ตอนนี้ตนก็เป็นห่วงพรีมเหมือนกันว่าจะปรับตัวได้ไหม จะใช้ชีวิตข้างในยังไง วิตกกังวลไปหมดเลยทุกวันนี้
กันฟังแล้วเห็นใจ พร้อมบอกให้พ่อกับแม่สู้ ด้านพ่อก็น้ำตาซึม แม่พรีมบอกว่า ตอนนี้พยายามทำใจกันอยู่ ได้แต่ดูจากข่าวว่าลูกเป็นยังไง แต่ไม่รู้ความจริงอะไรเลย คลิปของลูกต่างๆ ที่มีพฤติกรรมแรงๆ ตนก็เพิ่งเคยเห็นจากข่าว ยังตกใจอยู่เลยว่าทำไมลูกถึงโหดร้ายขนาดนี้ ยังงงอยู่เหมือนกันว่าลูกไปเอาพฤติกรรมแบบนี้มาจากไหน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่พูดไปคนก็จะด่าอีก
นอกจากนี้ กันได้บอกพ่อกับแม่พรีมว่า ขอบคุณมากที่พ่อกับแม่ที่รักตน ขอบคุณที่ติดตามตน แต่สิ่งที่ตนทำไม่อยากให้พ่อแม่โกรธตน ซึ่งทางแม่พรีมก็บอกว่า เข้าใจคุณกัน พ่อกับแม่เองก็ช็อกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าลูกเป็นแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาพฤติกรรมของพรีมไม่เคยส่อแววว่าเป็นเด็กก้าวร้าวเลย สามารถไปถามเพื่อนบ้านแถวนี้ได้ ทุกคนที่รู้จักพรีมก็งงกันหมดว่าทำไมถึงทำแบบนี้
เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อเห็นแถลงการณ์ไล่ออกของทางมหาวิทยาลัย แม่จึงโทรไปคุย เนื่องจากเพิ่งจ่ายค่าเทอมล่าสุดไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งตอนแรกจ่ายไป 70,000 กว่าบาท อีกอาทิตย์หนึ่งก็จ่ายอีก 20,000 กว่าบาท พอมันมีส่วนต่าง แม่เลยถามทางมหาวิทยาลัยว่าไล่ออกแล้ว ส่วนต่างจะทำยังไง
ปรากฏว่าทางมหาวิทยาลัยบอกว่าเงินไม่ได้เข้า ทำให้แม่งงมาก เพราะปกติจ่ายค่าเทอมผ่านลูก ให้ลูกไปจ่ายกับมหาวิทยาลัยเอง ทางมหาวิทยาลัยเลยให้แม่ไปหาหลักฐานการโอนเงินมา
แม่ก็เพิ่งทราบว่า พรีมเรียนปริญญาตรีจบไปแล้ว และตอนนี้ที่ลงเรียนไปใหม่คือปริญญาตรีใบที่ 2 เพราะที่ผ่านมาลูกบอกแค่ว่าติดฝึกงาน ต้องไปลงเรียนใหม่ พ่อกับแม่ก็เข้าใจแบบนั้นมาตลอด พ่อยังบ่นอยู่เลยว่าทำไมเรียนไม่จบสักที ทั้งนี้ หากรู้ว่าลูกจะไปทําพฤติกรรมแบบนี้คงเอาลูกกลับมานานแล้ว