จับพ่อ-แม่วิปริต นำลูกชายวัย 10 ขวบถ่ายคลิปลับกับครอบครัว ขายสมาชิกกลุ่มลับ รายได้เดือนละเป็นหมื่น แม่รับสารภาพ ส่วนพ่อปฏิเสธ อ้างถ่ายเก็บไว้ดูเอง
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.ศิษฏ์ พูลวงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี นายเค (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 505-506/2568 ข้อหา “ร่วมกันกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, ร่วมกันบันทึกภาพหรือเสียงการกระทำชำเราฯ ไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ” และยังจับกุม นายธรรมศร อายุ 32 ปี และนายทศพร อายุ 27 ปี ข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กฯ”
ทั้งนี้ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่พบเบาะแสสื่อลามกเด็กทางเว็บไซต์และกลุ่มไลน์ลับ โดยเป็นคลิปลับแนวครอบครัว คือพ่อแม่มีเพศสัมพันธ์กับลูก พร้อมให้โอนเงินค่าเข้ากลุ่มที่บัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง บัญชีของนายธรรมศร เจ้าของกลุ่มไลน์ลับดังกล่าว มีบ้านพักอยู่ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายธรรมศร พบโทรศัพท์มือถือมีข้อมูลสื่อลามกเด็กไว้ในความครอบครอง ทราบด้วยว่าเป็นเจ้าของกลุ่มไลน์ดังกล่าว จึงเข้าจับกุมตัว ผู้ต้องหารับสารภาพว่าซื้อคลิปมาจากนายทศพร ผู้ต้องหาที่ 4 ในราคา 1,000 บาท ก่อนจะมาตั้งกลุ่มลับ แอบอ้างตัวเป็นหญิงสาวตามคลิป ชักชวนให้ผู้อื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มไลน์เพื่อดูคลิปดังกล่าว หลังเปิดกลุ่มแค่ 2 สัปดาห์ก็มีผู้สมัครเข้ากลุ่มกว่า 1,000 คน ได้เงินค่าสมัครประมาณ 3 แสนบาท
ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขยายผลการจับกุม และเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายทศพรที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พบผู้ต้องหามีสื่อลามกเด็กไว้ในความครอบครองเป็นจำนวนมาก จึงจับกุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวนนายธรรมศรให้การว่า เมื่อช่วงปี 2566 ตนสมัครเป็นสมาชิกในกลุ่มลับของ น.ส.บี หรือ “แม่แอน“ เพื่อดูสื่อลามกของกลุ่มแม่แอน โดยเสียเงินสมัครเข้ากลุ่ม จำนวน 500 บาท จากนั้นได้เซฟภาพเก็บไว้นำมาขายต่อให้คนอื่น ส่วนของหญิงสาวและชายหนุ่มตามภาพในคลิปนั้นทราบว่าคือ น.ส.บีและนายเค ซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน และมีบุตรร่วมกันคือ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ ซึ่งน่าจะเป็นเด็กผู้เสียหายตามภาพในคลิปดังกล่าวอีกด้วย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมเข้าช่วยเหลือ ด.ช.เอ ผู้เสียหาย ส่งให้ พม.จ.เพชรบูรณ์ คุ้มครองดูแลตามกฎหมาย เบื้องต้นสอบสวน ด.ช.เอ ให้การยอมรับว่าเด็กในคลิปนั้นเป็นตนเองจริงๆ ส่วนบุคคลที่ทำกิจกรรมตามคลิปลามกต่างๆ ที่ตรวจพบกว่า 220 คลิปนั้นก็คือ น.ส.วันนิภาและนายอุเทน แม่และพ่อของตนนั่นเอง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานขอหมายจับบุคคลทั้งสองดังกล่าว
จากการสอบสวนขยายผลพบเส้นทางการเงินของ น.ส.บี มียอดเงินโอนเข้าบัญชีให้ครั้งละ 500 บาท เป็นจำนวนมากจากหลายบุคคล มีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นบาทต่อเดือน ทั้งที่ผู้ต้องหามิได้ประกอบอาชีพอื่นใด และจากการสอบสวนผู้ที่เคยโอนเงินมาเข้าบัญชี น.ส.บี ต่างให้การยืนยันว่าเป็นเงินค่าสมัครเป็นสมาชิกเข้ากลุ่มไลน์ลับของนางวันนิภา เพื่อดูคลิปสื่อลามกของเด็กผู้เสียหายจริง จึงดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 เพิ่มเติมในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกเด็กฯ, ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ และร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารฯ”
ต่อมาเจ้าหน้าที่สอบสวนทางด้าน น.ส.บีให้การรับสารภาพ ส่วนนายเคยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าถ่ายเอาไว้ดูเล่น เนื่องจากเป็นความชอบส่วนตน ไม่เคยนำคลิปไปแสวงหาประโยชน์แต่อย่างใด จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ดำเนินคดี
