สรุปผลการสอบ และคัดกรองคนไทย 119 คนที่ทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในปอยเปต พบว่า 100 คน มีความผิดอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตรวจคัดกรองคนไทยทั้ง 119 คนที่ทางกัมพูชาจับกุมในเมืองปอยเปตแล้วส่งกลับให้ทางการไทยทำการสอบสวนได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา (3 มี.ค.)
สำหรับขั้นตอนการสอบสวนนั้น ทาง ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ทำการแยกกลุุ่มคนออก ตามสถานที่ทำงานเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเริ่มสอบปากคำแต่ละคนอย่างละเอียด ซึ่งสามารถแยกออกเป็น 8 กลุ่ม และพบว่าเกือบทั้งหมดทำงานอยู่ภายในตึกเดียวกันคือ ตึกภูมิตาสวน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่ม 1 ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 2 จำนวน 23 คน มีพฤติการณ์หลอกให้ลงทุนในหุ้น
กลุุ่ม 2 ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 15 จำนวน 14 คน มีพฤติการณ์เป็นโรแมนซ์สแกม หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน
กลุ่ม 3 ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ 18 จำนวน 18 คน มีพฤติการณ์เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ M 98
กลุ่ม 4 ตึกภูมิตาสวน ออฟฟิศ B9 จำนวน 4 คน มีพฤติการณ์หลอกลวงด้วยการโทร หรือคอลเซ็นเตอร์ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน
กลุ่ม 5 ตึกภูมิตาสวน อาคาร 1 ชั้น ออฟฟิศ 6 จำนวน 27 คน (เป็นบุคคลตามหมายจับ 1 คน) มีพฤติการณ์หลอกลวงโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (การไฟฟ้า/กรมบัญชีกลาง)
กลุ่ม 6 ตึกภูมิตาสวน อาคาร 1 ชั้น ห้อง 9 จำนวน 6 คน
กลุ่ม 7 ยังระบุสถานที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งอยู่ในบริเวณตึกภูมิตาสวน จำนวน 12 คน (เป็นบุคคลตามหมายจับ 6 คน) คงเหลือเป็นบุคคลที่เข้าสู่กระบวนการ กลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism – NRM) จำนวน 6 คน
กลุ่ม 8 อยู่ อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการชักชวนเล่นการพนันไฮโลออนไลน์
ในจำนวนทั้งหมด 112 คน นี้ได้ดำเนินการซักถาม ก่อนกระบวนการคัดกรองตามกระบวนการคัดกรองผู้เสียหายตามคดีค้ามนุษย์ NRM พบว่า เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน ซึ่งผลการคัดกรอง ปรากฏว่า ไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์แต่อย่างใด
นอกจากนั้น การสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานพบว่า คนไทยที่ทำงานในตึกภูมิตาสวน รวมจำนวน 100 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และพบว่ามีหัวหน้าและคนติดตาม ซึ่งเป็นชาวจีน จำนวน 2 คน ร่วมกระทำผิดด้วย
ส่วนคนไทยที่ทำงาน อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน และเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน รวม 19 คน ยังไม่พบหลักฐานในการกระทำผิด
หลังการสอบสวนเสร็จสิ้นลง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท.และตำรวจภูธร ภาค 2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อขอศาลออกหมายจับ และได้นำหมายจับดังกล่าวมาแสดง และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นคนไทย รวม 93 คน (ที่เหลืออีก 7 คน ได้มีการจับกุมตามหมายจับคดีอื่นไปก่อนแล้ว) และได้ทำบันทึกจับกุม รวมทั้งดำเนินการแจ้งการควบคุมตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ จากนั้นในช่วงเวลา 23.25 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้นำผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งหมด 93 คน ออกจากสโมสรค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ไปยัง บช.สอท. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนคนไทยที่ทำงาน อาคาร K2 ชั้น 9 จำนวน 15 คน ซึ่งยังไม่พบหลักฐานในการกระทำผิด และไม่ได้ถูกออกหมายจับ ได้ส่งกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 คน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ได้รับตัวไป เพื่อคุ้มครองและส่งกลับภูมิลำเนา
กระทั่งเวลาประมาณ 23.40 น. ได้ปิดศูนย์คัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ NRM ณ สโมสรค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทันที
