พ.ต.อ.ทวีเผยไม่ได้ถูกขังเดี่ยว แต่เป็นเพียงห้องนอนแยกน้องสาว อดีตผู้กำกับโจ้ ยื่นขอความเป็นธรรมรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต “ผู้กำกับโจ้” สมัครใจขอขังเดี่ยว เพราะกลัวถูกบุคคลอื่นทำร้ายนั้น ว่า ขออธิบายว่าห้องดังกล่าว ไม่ใช่ห้องขังเดี่ยว แต่เป็นห้องนอน ที่โดยปกติสามารถรองรับผู้ต้องขังได้ 4-5 คน แต่ “อดีตผู้กำกับโจ้” นอนคนเดียว และตอนกลางวันก็ยังสามารถไปร่วมกิจกรรมอื่นๆ ได้หมด และวันก่อนเกิดเหตุก็ยังได้เข้าเยี่ยมญาติด้วย ซึ่งปกติแล้วสิ่งที่ผู้ต้องขังในเรือนจำเรียกร้องมาที่สุดก็คือพื้นที่การนอน แต่ประเด็นที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือล่าช้า เนื่องจากเรือนจำมีที่ประมาณ 100 ไร่ และต้องไปเอากุญแจที่อาคารด้านนอก กว่าจะมาถึงห้องขังจึงล่าช้า
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่ตนเองเคยให้สัมภาษณ์ว่า “อดีตผู้กำกับโจ้” มีอาการป่วยทางจิตเวชนั้น เนื่องจากเอกสารที่ออกมาของกระทรวงยุติธรรมทำให้ตนเองเข้าใจผิด เพราะเมื่อไปพูดคุยกับแพทย์ถึงรายละเอียดแล้ว พบว่า เป็นแค่อาการวิตกกังวล ไม่ใช่อาการป่วยทางจิตเวช ส่วนประเด็นที่มีเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์โทรฯ ไปคุยกับครอบครัวของ “อดีตผู้กำกับโจ้” เพื่อให้ถอนแจ้งความ คดีทำร้ายร่างกายภายในเรือนจำอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะถ้ามีคนเสียชีวิต ก็ถือว่าเป็นโทษวินัยร้ายแรง จะต้องมีการสอบปากคำผู้คุมและเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานในขณะนั้นทั้งเรือนจำ
ขณะที่ผ้าขนหนู เป็นผ้าที่ใช้งบประมาณของกรมราชทัณฑ์จัดซื้อมา ซึ่งผู้ต้องขังได้รับหมดทุกคน ส่วนขนาดที่มีความคลาดเคลื่อนนั้น จริงๆแล้วหน่วยวัดคลาดเคลื่อน จริงๆ คือเป็นขนาดประมาณ 40-50 นิ้ว ไม่ใช่เซนติเมตร
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หารือร่วมกับตำรวจ อัยการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็มีความมุ่งมั่นที่จะคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนในเรือนจำ อะไรที่เป็นกฎระเบียบที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน หรือหลักกฎหมาย ก็ถึงเวลาสังคายนา
ต่อมานางสาวธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของ “อดีตผู้กำกับโจ้” ก็ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะการเสียชีวิตของพี่ชายภายในเรือนจำ พร้อมขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือ รู้สึกมั่นใจมากขึ้นหลังได้เข้าพบรัฐมนตรี ว่าจะทำให้ครอบครัวตนเองได้รับความเป็นธรรม