คาด 30 วันคืบหน้า หลังสั่งย้ายผู้คุมคู่กรณีผกก.โจ้ รองอธิบดีกรมคุก ลั่นจะไม่ให้ตายฟรี

คาด 30 วันคืบหน้า หลังสั่งย้ายผู้คุมคู่กรณีผกก.โจ้ รองอธิบดีกรมคุกยันไม่เคยมีประวัติถูกร้องเรียน ไม่มีแบ็คใหญ่ ลั่นจะไม่ให้ตายฟรี

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีเรือนจำกลางของเปรมออกเอกสารคำสั่งย้าย นายสิทธิพร แก้วคำบัง พ้นจากหน้าที่หัวหน้างานควบคุมแดน 7 ให้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ประจำฝ่ายบริหารทั่วไป ส่วนบริหารทั่วไป ว่า คำสั่งย้ายดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ ซึ่งคณะกรรมการจะมีบุคคลจากหน่วยงานภายนอกร่วมด้วย

โดยหากผู้คุมสิทธิพรยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ก็จะทำให้ไม่สะดวกในการเข้าสอบปากคำ จึงมีคำสั่งย้ายจากการปฎิบัติงานเป็นผู้คุมแดน 7 มาอยู่ฝ่ายธุรการ ไม่ได้อยู่ภายในเรือนจำ เป็นการลดบทบาท แต่ยังไม่ได้หมายความว่ามีความผิด แต่เวลาที่ไปสอบผู้ต้องขังจะได้ให้การอย่างสบายใจ ไม่ถูกกดดัน

โดยขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ ได้ทำหนังสือไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ / กรมการปกครอง / และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งชื่อกรรมการมา หากได้ครบก็จะสามารถเริ่มประชุมได้เลย เชื่อว่าในระยะ 30 วันแรกจะได้ความคืบหน้าพอสมควร ซึ่งในการตรวจสอบจะต้องถามทุกประเด็น รวมถึงประเด็นในหนังสือร้องเรียนที่แม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ส่งมาด้วย

ADVERTISMENT

พ.ต.ท.เชนกล่าวว่า โดยหนังสือร้องเรียนของแม่อดีตผู้กำกับโจ้ ได้มีการลงนามส่งมาถึงกรมราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 จึงได้มีการตั้งเรื่องไว้แล้วว่าจะตั้งกรรมการตรวจสอบโดยมีผู้ตรวจราชการเป็นหัวหน้าคณะกรรมการ แต่เมื่ออดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิตลง จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ยืนยันว่า ผู้คุมสิทธิพร ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ถูกร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ และกระแสข่าวที่ว่ามีแบ็คเป็นถึงระดับผู้ใหญ่ของกรมนั้น ตนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตรวจสอบที่อธิบดีตั้งขึ้นมานี้ จะต้องตรวจสอบทุกเรื่องอยู่แล้ว และก็มีบุคคลภายนอกร่วมเป็นกรรมการด้วย รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอดีตผู้กำกับโจเองก็เป็นตำรวจ และยังมีฝ่ายปกครอง / นักนิติวิทยาศาสตร์ / กลุ่มแพทย์ ซึ่งจะมีความหลากหลายเชื่อว่าผลการตรวจสอบ จะออกมาในทิศทางที่ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด”

ADVERTISMENT

พ.ต.ท.เชนกล่าวว่า สำหรับผู้คุมสิทธิพรนั้น ได้เคยเรียกมาสอบถามครั้งหนึ่งแล้วในวันที่เกิดเหตุ เพราะมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งเท่าที่ดูภาพลักษณ์ไม่ได้ดูเป็นคนดุดัน และเขายืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับอดีตผู้กำกับโจ้ แต่เป็นการกวดขันวินัยผู้ต้องขังตามปกติ ซึ่งเวลาที่ผู้ต้องขังเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็จะมีความเครียดอยู่แล้ว และอดีตผู้กำกับโจ้นั้นเคยเป็นตำรวจ แต่ผู้ต้องขังคนอื่นเคยเป็นโจร ดังนั้น จึงมองภาพต่างกัน คนเคยบังคับใช้กฎหมาย พอเห็นอะไรที่คิดว่าไม่ถูกต้องก็จะบอก แต่ผู้คุมจะคอยกวดขันว่าสิ่งใดปรับได้หรือไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นจะต้องทำให้เสียชีวิต

ทั้งนี้ ยืนยันว่าสื่อลามกกับยาเส้น เป็นสิ่งของที่มีความผิด หากมีการนำเข้าไปใช้ในเรือนจำจริง ผู้คุมที่รับรู้ต้องมีความผิดทางอาญาด้วย ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์มีการใช้ชุดดำจู่โจมตรวจสอบอยู่ตลอด ก็ยอมรับว่ามีพบบ้าง ไม่ใช่ไม่มีเลย และผู้ต้องขังคนที่ถูกระบุในหนังสือร้องเรียนก็ต้องถูกตรวจสอบเช่นกัน

พ.ต.ท.เชน ย้ำถึงการที่ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ไปแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายร่างกายที่ สน.ประชาชื่นว่า ตามกฎกระทรวงมีกำหนดไว้ว่าการจะแจ้งความดำเนินคดีจะต้องทำผ่านผู้บัญชาการเรือนจำให้พิจารณาเป็นเรื่องไป เพื่อให้มีการควบคุม เพราะในเรือนจำกลางคลองเปรม มีผู้ต้องขังมากกว่า 6,000 คน หากไม่มีระเบียบกฏเกณฑ์ ทุกคนก็จะแต่งตั้งทนายความไปแจ้งความกันเองหมด ทำให้เกิดความอิรุงตุงนังได้

แต่กรณีนี้ที่ยังไม่ได้ให้พนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ไม่ให้เข้า แต่ให้ไปตรวจสอบดูก่อน เพราะระเบียบกำหนดว่า ทางสถานีตำรวจต้องทำหนังสือผ่านผู้บัญชาการเรือนจำก่อน และช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนผู้บัญชาการเรือนจำพอดี จึงทำให้สังคมเกิดความสงสัยได้

ส่วนที่ตอนนี้ทางครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้ รู้สึกไม่มั่นใจในการตรวจสอบของกรมราชทัณฑ์ ตนขอบอกว่า ตนเห็นใจครอบครัว เพราะก็เคยพูดคุยกัน เห็นมาเข้าเยี่ยมอดีตผู้กำกับโจ้มาตลอด อีกครั้งตนก็เป็นรุ่นพี่โรงเรียนนายร้อยตำรวจของอดีตผู้กำกับโจ้ จึงเข้าใจ จะไม่ยอมให้ต้องตายฟรี จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ และครอบครัวสามารถประสานขอเข้ามาตรวจสอบในเรือนจำได้ตลอด เชื่อว่าเรื่องนี้จะค่อยค่อยคลี่คลาย เบื้องต้นผลทางนิติวิทยาศาสตร์ก็บอกแล้วว่า ที่คอไม่มีแผลอื่น ส่วนรอยเลือด คือ น้ำเหลืองที่ผสมเลือด หยดติดพื้น และแพทย์ก็ได้ผ่าตรวจภายในร่างกายโดยละเอียดไปแล้ว รอผลประมาณ 1 เดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image