คาดทราบผลตรวจเลือด-ชิ้นเนื้อ อดีตผกก.โจ้ ภายใน 3 สัปดาห์ ทนายยันทำพิธีทางศาสนาเสร็จ ญาติจะเก็บร่างไว้ก่อน
เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 10 มีนาคม นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะส่งผลเลือดและชิ้นเนื้อไปตรวจที่สถาบันพยาธิวิทยา และสถาบันพิษวิทยาอีกทีและจะมีการทำรายงานแจ้งไปทางพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน ที่ สน.ประชาชื่นอีกครั้ง คาดว่าน่าจะรู้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ ซึ่งเบื้องต้นวันนี้ทางครอบครัวและทนายความได้พูดคุยกับทางแพทย์เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากประกอบพิธีทางศาสนาเสร็จจะไม่มีการนำร่างชันสูตรที่ใดต่อแล้วทางญาติจะเก็บร่างไว้ก่อน
ส่วนจะมีความคล้ายคลึงกับผลชันสูตรจากที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จ.ปทุมธานีหรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์ย้ำว่า ต้องทำรายงานและจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวนก่อน ยังพูดอะไรไม่ได้ โดยวันนี้ทางครอบครัวมาฟังข้อมูลเพิ่มเติม และแพทย์ก็ได้อธิบายว่าจะมีการตรวจอย่างไร รวมถึงก่อนหน้านี้มีการตรวจอย่างไรมาแล้วบ้าง ซึ่งทางแพทย์ก็จะดูรายละเอียดหลังจากนี้ต่อ
และประเด็นที่ทางกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9 มี.ค.) ทางครอบครัวและตนเห็นแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด
นายวีรศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่กรมราชทัณฑ์ออกมาชี้แจงว่า อดีต ผกก.โจ้ ป่วยจิตเวชตามเอกสารชี้แจงนั้น เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ทางญาติก็ยังเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกันตลอดด้วยดี โดยในช่วงวันเกิดเหตุมีเพียงแฟนสาวและเพื่อนที่เป็นตำรวจเข้าไปพูดคุยเท่านั้น แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าไปคุยเรื่องอะไรกัน หรือมีเรื่องอะไรที่สะกิดใจอดีต ผกก.โจ้หรือไม่ เพราะตัวเองไม่ได้เข้าไปด้วย
ซึ่งตนได้พูดคุยกับอดีต ผกก.โจ้เพียงแค่เรื่องคดีที่จะเดินหน้าต่อ ซึ่งเจ้าตัวก็มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และยังพูดคุยกันเรื่องว่าจะให้อุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องทรัพย์สิน ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยกัน จะเน้นเป็นเรื่องคดีทั้งหมด
เมื่อถามถึงเรื่องที่ผู้กำกับโจ้มีพฤติกรรมเอากล้องของทางเรือนจำไปใช้ถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเรื่องที่ผู้กำกับโจ้ไม่ประสงค์จะให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียน จึงขอยุติเรื่อง พร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบังคับ ทางทนายหรือครอบครัวทราบหรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์กล่าวว่า “เรื่องนี้ก็ต้องถามทางญาติ พร้อมยืนยันว่า ผกก.โจ้ถูกย้ายไปขังเดี่ยวจริง แต่เรื่องอะไรก็ไม่แน่ใจ”
ส่วนประเด็นที่ผู้คุมคู่กรณีถูกย้ายออกมาจากแดนแล้ว นายวีรศักดิ์ระบุว่า ไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้มาก เพราะคิดว่าทางเรือนจำเขาก็คงทำตามกระบวนการให้ดีที่สุด