พ่อแม่พลทหารตายจากบึ้มร้านซื้อของเก่า พบผกก.บางเขน ร้องครอบครัวโดนเบี้ยวค่าเยียวยา

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ สน.บางเขน นางสมพิศ พุ่มช้าง อายุ 49 ปี และนายสุทัศ พุ่มช้าง อายุ 51 ปีเข้าพบ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พร้อมนำโกศ และภาพถ่ายพลทหาร นนทนันท์ พุ่มช้าง บุตรชาย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีบุตรชายตกเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ระเบิดที่ร้านแบนด์รีไซเคิล ที่รับซื้อของเก่า เลขที่ 9 ซอยลาดปลาเค้า72 แยก 14 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จนมีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา

นางสมพิศ เปิดเผยว่า มาขอความเป็นธรรมเนื่องจากครอบครัวยังไม่ได้รับการเยียวยา โดยพลทหาร นนทนันท์ ลูกชายคนกลางในขณะนั้นเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี ในวันเกิดเหตุได้ลาพักกลับบ้านและได้ขอติดรถส่งของที่มีนายพงศธร พุ่มช้าง ลูกชายคนเล็กเป็นคนขับ เพื่อไปเยี่ยมเพื่อน เลยร้านรับซื้อของเก่าไปไม่ไกล และได้จอดรถก่อนถึงร้านรับซื้อของเก่าโดยพลทหาร นนทนันท์ลงไปซื้อของ ขณะกำลังจะเดินกลับมาขึ้นรถก็เกิดเหตุระเบิดทำให้พลทหาร นนทนันท์ถูกแรงระเบิดเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกชายคนเล็กที่รออยู่บนรถได้รับบาดเจ็บแก้วหูแตก จนไม่ได้ยิน งหลังจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2557 ร้านแสดงความรับผิดชอบโดยการบอกว่าขอเวลา 6 เดือนแล้วจะจ่ายเงินเยียวยาให้ จนกระทั่งใกล้วันครบกำหนดโทรไปสอบถามร้านรับซื้อของเก่าได้รับคำตอบกลับมาว่า ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา แล้วจะจ่ายให้หัวละ 1,000-2,000 บาท จึงเรียกร้องความเป็นธรรมโดยไปปรึกษากับสภาทนายความ จนในที่สุดสภาทนายความได้ยื่นฟ้องนางเอื้อมพร สืบเนียมหรือเสาพันธุ์รส เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า แบนด์รีไซเคิล ต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 และได้เรียกร้องเงินชดเชยในส่วนของลูกชายตนทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นค่าทำศพ ค่ารักษาพยาบาล ค่าอุปการะครอบครัว และอื่นๆรวมเป็นเงิน 2,300,000 บาท ต่อมาศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้ แบนด์รีไซเคิล ร้านรับซื้อของเก่า จ่ายเงินชดเชยให้พลทหาร นนทนันท์ จำนวนเงิน 770,000 บาท และให้นายพงศธร ลูกชายคนเล็ก จำนวนเงิน 6,965.50 บาท ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวแม้แต่บาทเดียว

นางสมพิศ กล่าวทั้งน้ำตาว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากทำงานไม่ได้เนื่องจากผ่าตัดกระดูกสันหลังมาโดยแพทย์ระบุไม่ให้ทำงานหนัก ส่วนสามีต้องเช่าที่ทำสวน ได้บ้างขาดทุนบ้างจนเป็นหนีสิ้น ก่อนหน้านี้พลทหาร นนทนันท์ เป็นคนที่คอยส่งเสียเลี้ยงดูพ่อและแม่มาโดยตลอด ภายหลังจากขาดเสาหลักของบ้านไปก็อยู่กันแบบขัดสน จึงเดินทางมาขอความเป็นธรรมอยากจะให้คู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้างเพราะลูกชายตนเป็นผู้ถูกกระทำ

ด้านพ.ต.อ.อำนาจ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสารพบว่าศาลแพ่งได้มีการตัดสินคดีเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ตรงนี้ในส่วนของตำรวจถือว่าคดีสิ้นสุดไปแล้วซึ่งหลังจากนี้ทำได้เพียงแนะนำให้ไปพบกรมบังคับคดีเพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปเท่านั้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image