เปิดคลิป เสียงดังผัวะ !บังมัด ตบหน้า สันธนะ รับว่าตั้งใจไปก่อเหตุ หากอยากแก้ก็มาหาได้ตลอด
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า กลางดึกคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ทองหล่อ ไปตรวจสอบเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน บริเวณลานจอดรถร้านอาหารแห่งหนึ่ง พื้นที่ซอยทองหล่อ 13 พบนายวันชัย มะอินทร์ หรือ “บังมัด คลองตัน” อดีตนักโทษอุกฉกรรจ์ กำลังมีปากเสียงกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจึงไประงับเหตุ ตรวจสอบทราบว่ามีการตบหน้ากัน 1 ครั้ง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุบานปลาย แต่ทางนายสันธนะยังไม่ได้เดินทางเข้าแจ้งความแต่อย่างใด
พ.ต.อ.รัฐธนนท์ กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นความผิดลหุโทษ ต้องให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ ทางตำรวจก็พร้อมจะรับแจ้งและดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ทราบว่าทั้งสองฝ่ายระหองระแหงกันมาอยู่แล้ว กระทั่งมาเจอกันโดยบังเอิญ ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่เฟซบุ๊ก “บังมัด คลองตัน” โพสต์ข้อความระบุว่า “..ไอ้สันมึงมันก็แค่คน XXX คนหนึ่งxxx เขาไปทั่ว มึงต้องเจอกับกูเด็กสลัมเอกมัย 30 มึงรีบไปแจ้งความนะ ว่ากูตบหน้ามึง 555…” พร้อมคลิปวิดีโอจังหวะชุลมุน มีคนพยายามห้ามปรามกันวุ่น.
ทั้งนี้ บังมัดได้เปิดใจเล่าสาเหตุว่า เมื่อเวลา 02.30 น. มีรุ่นน้องโทรมาบอกว่า คู่กรณีอยู่ที่ร้านดังกล่าวย่านทองหล่อ 13 จึงออกไปหา เนื่องจากไม่ถูกกันมานานแล้ว อีกทั้งเรื่องที่คู่กรณีเคยพูดถึงเรื่อง ส.จ.โต้ง เมื่อไปถึงจึงเกิดเรื่องดังกล่าว
บังมัด ยังเล่าว่า เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกับนายสันธนะ เกิดขึ้นบริเวณลานจอดรถของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ 13 ลูกน้องตนที่เป็นเด็กรับรถในย่านทองหล่อ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาแจ้งตนว่าพบเห็นนายสันธนะอยู่ในที่เกิดเหตุ ตนจึงเดินทางจากซอยหัวหมาก 18 พร้อมลูกน้องรวมตนเป็น 3 คน ขับรถไปถึงที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าตั้งใจไปเพื่อก่อเหตุ เมื่อไปถึงลงจากรถจึงปรี่เข้าไปตบที่หน้านายสันธนะขณะยืนกอดอก 1 ครั้ง
จากนั้นลูกน้องของนายสันธนะประมาณ 10 กว่ารายต่างกรูเข้ามา ทำให้ลูกน้องของตนพยายามจะจับแยก ตามที่ปรากฏในคลิป เหตุการณ์จึงสงบลง ปมเหตุเรื่องนี้ เป็นความแค้นที่ในอดีตก่อนโควิด-19 นายสันธนะมีพฤติกรรมลักษณะไปรังแกลูกน้องที่รับรถในพื้นที่เอกมัย 30 จนทำให้ลูกน้องได้รับความเดือดร้อน
อีกทั้งตนเองเป็นคนในพื้นที่ ต้องการให้คนในพื้นที่มีรายได้จากการรับรถเพื่อไปเลี้ยงครอบครัว แต่กลับมาถูกรังแก ตนจึงมองว่าไม่เป็นธรรม รวมถึงมีคดีนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ ส.จ.โต้ง ที่นายสันธนะมีการพูดทำนองไม่ให้เกียรติกัน ประกอบกับตนที่เป็นพี่น้องสนิทกันกับ ส.จ.โต้ง จึงเก็บความไม่พอใจ
จึงเปิดยุทธการล่านายสันธนะขึ้น พร้อมประกาศกับลูกน้องทุกคนในพื้นที่รับรู้ว่า หากนายสันธนะเข้ามาในพื้นที่ขอให้แจ้งตน แต่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาลูกน้องก็ไม่พบว่านายสันธนะเข้าไปในพื้นที่
สำหรับคดีความนั้น ตนได้ประกาศไปแล้วว่า ให้นายสันธนะไปแจ้งความ ตนพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการ และจะไม่หนีไปไหน ยืนยันว่าจะรออยู่ที่ซอยหัวหมาก 18 ตลอดเวลา “หากอยากแก้ก็มาหาได้ตลอด” ส่วนที่นายสันธนะประกาศว่าจะไม่ขอแจ้งความนั้น แต่จะดำเนินการตามแนวทางหรือวิถีทางของตัวเอง “ก็ยินดี พร้อมตลอดเวลา ขอให้มา”
ทั้งนี้ตนรู้ดีว่าการใช้กำลังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ขอโทษเยาวชน แต่มันอดไม่ได้จริงๆ สำหรับคนที่ชอบรังแกคนอื่น ส่วนที่บ้านเมืองมีกฎหมายมีขื่อมีแปทำไมไม่รอให้กฎหมายดำเนินการนั้น มองว่ามันช้า ไม่ทันใจสำหรับคนประเภทนี้
