ลุ้นผู้รอดชีวิต! ทีมกู้ภัย เปิดโพรงโซน Dได้สำเร็จ เร่งเข้าพื้นที่ตรวจสอบค้นหาผู้สูญหาย
จากกรณีโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 34 ชั้น ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ เกิดถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคม ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม จนถึงขณะนี้ เวลา 23.55 น. ของวันที่ 2 เมษายน เจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งในและต่างประเทศระดมกำลังช่วยหาผู้สูญหายไม่ย่อท้อ
โดย ศูนย์บัญชาการ ณ พื้นที่อาคารถล่ม อัพเดตข้อมูลผู้ประสบภัย จากเหตุ อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้าง พังถล่มทับคนงานหลายสิบราย ณ เวลา 21.00 น. วันที่ 2 เมษายน ได้สรุปยอดผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ดังนี้ เสียชีวิต 15 ราย สูญหาย 72 ราย บาดเจ็บ 9 ราย
เมื่อช่วง 23.00 น. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไลฟ์สดอัพเดตสถานการณ์ โดยระบุว่า “ความหวังเล็กๆ“ นายชัชชาติได้เปิดเผยผ่านไลฟ์สดช่วงต้นว่า ทีมช่วยเหลือทีมหนึ่ง ได้เข้าไปตะโกนในปล่องที่เป็นช่องว่าง และมีคนตะโกนกลับมา เขาก็เรียกเพื่อนให้ไปตะโกน และได้ยินเสียงตะโกนกลับมาเช่นกัน เอาสแกนไปสแกน ก็พบคล้ายๆ กับคน
ซึ่งตลอดทั้งคืน จนถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างเร่งเปิดพื้นที่ เพื่อเข้าค้นหาผู้รอดชีวิต
เมื่อวันที่ 3 เมษายน นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า การช่วยเหลือผู้ติดค้างภายในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ที่กำลังก่อสร้างและพังถล่มลงมา ตอนนี้เน้นไปที่โซนบีและโซนซี ที่พบจุดต้องสงสัยและคาดว่ามีผู้ติดค้างอยู่ภายในสร้างอาคาร
โดย โซนบี เป็นบริเวณใกล้ช่องบันไดหนีไฟ ที่พบสัญญาณต้องสงสัยว่า จะมีผู้ติดค้างร้องขอความช่วยเหลืออยู่ใต้ซากลึกลงไปประมาณ 3 เมตร ขณะนี้ดำเนินการไปได้ 2 เมตรกว่า จากการสแกน น่าจะใกล้ถึงตัวผู้ติดค้างที่อยู่ด้านใน ส่วนการตอบรับจากผู้ที่ติดค้างอยู่ ปัจจุบันไม่ได้รับการตอบรับเหมือนเมื่อคืน และช่วงเมื่อเช้าที่ผ่านมา
ส่วนใน โซนซี ใกล้เคียงโซนดี เป็นบริเวณช่องลิฟต์และเป็นส่วนที่แข็งแรงสุดของโครงสร้างที่ผ่านถล่มลงมา คาดว่ามีผู้ติดอยู่ภายใน และเป็นจุดที่สุนัข K9 มีปฏิกิริยาต้องสงสัยว่าพบผู้ติดค้าง ตลอดทั้งวันได้ระดมกำลังค้นหา สุนัข K9 และเจ้าหน้าที่นานาชาติเข้าไปค้นหา
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เจาะและเคลื่อนย้ายซากอาคาร และขุดเจาะเข้าไปถึงผนังช่องลิฟต์แล้ว ตอนนี้กำลังจะดำเนินการเจาะผนังช่องลิฟต์เข้าไปถึงโพรงด้านใน ที่ยังคงมีความหวังว่าจะพบผู้ติดค้างอยู่บริเวณนี้ ส่วนปัญหาและอุปสรรค คือ พื้นคอนกรีตที่กดทับลงมาหลายชั้น มีความหนา ยากที่จะขุดเจาะช่องให้คนเข้าไปได้
ขณะที่เพจ “Fire & Rescue Thailand” โพสต์ข้อความระบุว่า
เวลา 17.30 น. รถแบ๊กโฮทีมกู้ภัย เปิดโพรงได้สำเร็จในพื้นที่โซน D พบโพรงขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างตรวจสอบมีผู้รอดชีวิตหรือไม่
ข้อมูล : มูลนิธิเพชรเกษม

