รวบสาวเวียดนาม หลบหนีเข้าเมือง กรีดกระเป๋าคนไทยไหว้พระช่วงสงกรานต์
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 13 เมษายน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พลูสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รองผกก.สส.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.เดชา พรมโสภา สว.สส.สน.พระราชวัง, ร.ต.อ.ธนัท ผดุงสิน รอง สว.(สส.)ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวังได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาว ทิ จำ (MRS.NGUYEN THI TRAM) อายุ 42 ปี สัญชาติเวียดนาม ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยแปลงตัว หรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ ในสถานที่บูชาสาธารณะ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2358/2568 ลงวันที่ 12 เมษายน 2568 จับกุมภายในห้องพักโรงแรม ย่านรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องภายในห้องพักของอพาท์เมนท์ ย่านลาดพร้าว เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่อง ห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง แขวง พระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 17.30 น.ที่ผ่านมา
พร้อมด้วยของกลาง ชุดเดรส สีน้ำเงิน จำนวน 1 ชุด ผ้าคลุมสีน้ำเงิน จำนวน 1 ผืน รองเท้าหุ้มส้นสีดำ จำนวน 1 คู่ กระเป๋าสะพายข้างยี่ห้อ Louis Vuitton สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ หน้ากากอนามัย สีขาว จำนวน 1 ถุง โทรศัพท์ ยี่ห้อ SAMSUNG GALAXY A9 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง เงินธนบัตรต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินดอลลาร์สหรัฐ, เงินรูเปียห์อินโดนีเซีย, เงินริงกิตมาเลเซีย, เงินดองเวียดนาม กระดาษฟอยล์ จำนวน 4 ม้วน กระเป๋าสตางค์ จำนวน 3 ใบ ผ้าที่ใช้คลุมไหล่ จำนวน 3 ผืน มีดคัตเตอร์ จำนวน 2 เล่ม ใบมีดคัตเตอร์ จำนวน 1 อัน สำเนาหนังสือเดินทาง 1 ฉบับ
หลังเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 11.25 น. ได้มีผู้เสียหายได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า เมื่อ เวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 12 เมษายน 2568 ได้เดินทางมาไหว้พระที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ขณะที่ผู้แจ้งกำลังเดินเข้าไปสักการะในวิหารพระนอนได้ตรวจสอบพบว่า กระเป๋าสะพายข้างสีขาวได้ถูกกรีด โดยข้างในกระเป๋าสะพายข้างสีขาว มีกระเป๋าตังลาย สก็อตสี่เหลี่ยมราคาประมาณ 300 บาท โดยข้างในกระเป๋ามีสิ่งของ ประกอบด้วย 1.เงินสด 3,000 บาท, 2.บัตรประชาชน 1 ใบ, 3.บัตรเครดิตไทยพาณิชย์, 4.บัตรเครดิตกสิกร 2 ใบ, 5.บัตรเครดิตทหารไทยธนชาต 2 ใบ 6.บัตรATMกสิกร 1 ใบ ราคารวม 3,300 บาท
ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ได้รับคำสั่งดังกล่าวแล้ว จึงได้ร่วมกันวางแผนในการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด มีพยานหลักฐานตามภาพวงจรปิดภายในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเห็นพฤติกรรมของผู้ที่ก่อเหตุ จำนวน 2 คน ที่ได้ร่วมกันก่อเหตุ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้ได้ทรัพย์ของผู้เสียหายไปจริง และมีภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ ปรากฎตามเอกสารรายงานสืบสวน ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและจัดทำรายงานการสอบสวนเสนอต่อมาพนักงานสอบสวนไปขออนุญาตศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน (ปรากฏตามภาพบันทึกภาพใบหน้าจากกล้องวงจรปิด) ที่ก่อเหตุในคดีนี้ อันได้แก่
หมายจับของศาลอาญาที่ 2358/2568 ลงวันที่ 12 เมษายน 2568 และ หมายจับของศาลอาญาที่ 2359/2568 ลงวันที่ 12 เมษายน 2568 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ ในสถานที่บูชาสาธารณะ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับขว่า หญิง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงปรากฏตามภาพบันทึกภาพใบหน้าจากกล้องวงจรปิดทบุคคลตามหมายจับ ได้มาปรากฎตัวอยู่ที่ บริเวณภายในโรงแรม ย่านรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยมีลักษณะตำหนิรูปพรรณใบหน้าตรงกันกับบุคคลตามหมายจับ จากนั้น พ.ต.ท.ไพศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ และได้วางแผนพร้อมเดินทางไปยังสถานที่บริเวณดังกล่าว
จากนั้นเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 12 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ปรากฏพบเห็น หญิงซึ่งตำหนิรูปพรรณตรงตามบุคคลตามหมายจับดังกล่าว อยู่ภายในโรงแรมดังกล่าว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งได้แจ้งเหตุแห่งการเข้ามาแสดงตัว พร้อมทั้งได้สอบถามชื่อนามสกุลของหญิงดังกล่าว ซึ่งหญิงคนดังกล่าว ได้แจ้งว่า ตนเองเป็นคนเวียดนาม สามารถพูดฟังภาษาไทยได้ พร้อมทั้งได้แจ้งว่า ตนชื่อ MRS.NGUYEN THI TRAM และสามารถ พูด ฟัง ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แสดงหมายจับ ได้ยอมรับว่า พวกตนเป็นบุคคลตามหมายดังกล่าวนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งแก่ MRS.NGUYEN THI TRAM ว่า จะต้องถูก และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเคยถูกผลักดันในคดีเก่า ก็ได้ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ที่บ้านแหลม จันทบุรี มาก่อเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและเร่งติดตามผู้ร่วทก่อเหตุอีกรายต่อไป
ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังทรัพย์สินของตัวเอง ในระหว่างที่ท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีประชาชนหนาแน่นเพราะอาจจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังดูแลป้องกันอย่างเต็มที่ตามนโยบายผู้บังคับบัญชา เพื่อไม่ให้มีเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวเกิดขึ้นอีก
