ครอบครัวน้องมาร์ค หนุ่มเอนฯ ดับปริศนา ร้องกองปราบเอาผิดคนบนแพ เชื่อถูกบังคับเสพยา-อำพรางศพ

ทนายรณรงค์ พาครอบครัวหนุ่มเอ็นฯ ตกแพดับปริศนา ร้องป. แจ้งเอาผิดคนบนแพ เชื่อถูกบังคับเสพยาจนตายแล้วอำพรางเป็นอุบัติเหตุ

จากกรณี “น้องมาร์ค” หนุ่มเอ็นเตอร์เทน วัย 27 ปี ที่ตกแพเสียชีวิตอย่างปริศนาที่จ.กาญจนบุรี เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.พ.68 ต่อมาผลชันสูตรศพระบุว่า เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นมาจากสารเสพติดไม่ได้จมน้ำตาย ทำให้สงสัยว่าถูกฆาตกรรม หรือถูกบังคับให้ใช้สารเสพติดขณะรับงานเที่ยวแพกับ LGBTQ คนหนึ่งหรือไม่ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 14 พ.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา ครอบครัวของ “นายมาร์ค” เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ บุคคลที่อยู่บนแพวันเกิดเหตุ จำนวน 2 ราย หลังเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องมาร์ค

นายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจนัดแม่ของผู้ตายเข้ามาให้ปากคำ รวมทั้งแจ้งความร้องทุกข์ หลังผลชันสูตรออกมาว่า น้องมาร์คเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว ไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่จะเสียชีวิตจากอะไรเราไม่รู้ แต่ผลออกมาหัวใจล้มเหลว ไม่เจอน้ำในปอด แต่พบศพในน้ำทำให้ติดใจสาเหตุการตายว่ามีการอำพรางคดีหรือไม่ อีกทั้งพยานบางรายยังบอกว่ามีการรับเงิน 60,000 บาท ทำให้ผลการตรวจสารในร่างกายของผู้ต้องสงสัยไม่พบสารเสพติด ทางญาติของผู้ตายเลยปรึกษากันว่าจะไม่ไปโรงพักพื้นที่เกิดเหตุแล้ว เพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากขอให้กองปราบฯช่วยคลี่คลายคดี

ขณะที่ แม่และพี่สาวของผู้ตาย กล่าวว่า ครอบครัวเรารอกันมาหลายเดือน ในวันนี้เมื่อผลชันสูตรออกมาแล้ว จึงต้องเดินหน้าสู้ต่อเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับน้อง หวังว่ากองปราบฯจะรับเรื่อง หลังผลชันสูตรออกมาว่าน้องหัวใจล้มเหลว และยังพบสารเสพติดในร่างกายจำนวนมากด้วย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมทางสภ.ศรีสวัสดิ์ ยังส่งหลักฐานตัวจริงมาให้ครอบครัวไม่ได้ จึงต้องมาที่กองปราบ ประสานให้ ตำรวจสภ. ศรีสวัสดิ์ ส่งหนังสือมายืนยันว่าผู้ตายไม่เคยมีประวัติการใช้ยาเสพติด ส่วนที่ปอดของผู้เสียชีวิตไม่มีน้ำอยู่นั้นก็เป็นเรื่องจริง แต่ตนเองยังไม่เห็นหลักฐาน แต่เป็นการบอกเล่าจากตำรวจสภ.ศรีสวัสดิ์ ตอนนี้ครอบครัวติดใจเรื่องสาเหตุการตาย โดยสงสัยว่าจะเป็นการอำพรางคดี และเชื่อแบบนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วอีกด้วย

ADVERTISMENT

“มีหลายอย่างมากมายที่อยู่ในความรู้สึก ส่วนเงิน 60,000 ที่ตำรวจรับไปนั้นได้ยินจากพยานอีกคนที่อยู่บนแพ เป็นคนสารภาพกับครอบครัว มีการโทรมาสารภาพกับแม่และพี่สาวของผู้เสียชีวิตด้วย บอกว่าทนไม่ได้ต้องออกมาพูดเพื่อช่วยผู้เสียชีวิต คือคนทำผิดยังดำเนินชีวิตเหมือนเดิม ยังมีการไปทำแบบนี้กับคนอื่น ฟางเส้นสุดท้ายคือ ต้องการออกมาช่วยผู้เสียชีวิต เพราะผู้ตายเป็นคนดี น่าสงสาร”

ครอบครัวน้องมาร์ค กล่าวต่อว่า ส่วนของอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งเป็นผู้จัดงาน มาร่วมงานศพจริง แต่ไม่ได้เอาเงินมาช่วย 60,000 บาท ในวันที่มามีการแจ้งผ่านแฟนของผู้ตาย ว่าอยากช่วยเรื่องดอกไม้ในงาน ,ของชำร่วย ซึ่งท่งครอบครัวเรายืนยันตั้งแต่แรกว่าไม่ขอรับอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่เชื่อสิ่งที่เล่ามาทั้งหมด สิ่งที่ให้มาเป็นแค่น้ำใจที่เขาอยากให้ เพราะเขาบอกแค่ว่าชวนน้องไป แล้วน้องเสียชีวิต ซึ่งจะให้เพื่อช่วยเหลืองานศพ แต่ครอบครัวเราไม่ได้รับโดยตรง มีอีกคนนึงที่จ่ายให้ ที่ผ่านมาเชื่อว่าผู้จัดงานรายนี้ยังไม่เคยพูดความจริง ซึ่งเราให้โอกาสพูดแล้วแต่ไม่พูด ก็อยากให้ออกมาพูดความจริง พร้อมอธิบายเรื่องในวันนั้นทั้งหมดเพราะของน้องยังคาใจหลายเรื่อง เมื่อทำกับลูกของแม่ก็ต้องกล้าออกมาความจริงด้วย

“ พวกเราไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ จุดข้างแพตรงนั้น เข้าใจว่ามาร์คถูกโยนลงไปแล้วมีการเสียดสี และทำให้ตะไคร่หลุด ตรงนั้นจะมีเชือกผูกอยู่ข้างแพ เพื่อพยุงแพให้ลอย ที่สำคัญผู้ตายไม่เคยใส่กางเกงในตัวเดียวนอน และไม่เชื่อด้วยว่าจะใส่กางเกงในตัวเดียวลงไปว่ายน้ำตามที่ระบุ น้องมาร์คว่ายน้ำเป็น เป็นนักกีฬา และยังเรียนว่ายน้ำมาด้วย คนอะไรจะว่ายน้ำตอนตีสามตีสี่ ”