ผู้สยบเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จากเด็กเลี้ยงควาย สู้ยุทธจักรมือปราบ เล่ายิบนาทีแฝงตัว

“ตั้งแต่ข่าวเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ผมอ่อนเพลียมาก เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผม รู้สึกท้อๆ ทำงานเหนื่อยแล้ว เสร็จแล้วควรพักผ่อน แต่เวลานี้ชีวิตมันเปลี่ยน การใช้ชีวิตมันเปลี่ยน สื่ออยากได้ข้อมูล”จากความรู้สึกของผู้กองสายสืบ

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา หรือผู้กองธร รองสารวัต กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม มีดีกรีอดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย

เจ้าตัวเปรยให้ฟังหลังเป็นนายตำรวจคนดัง ที่เข้าไปแฝงตัวในวัดไร่ขิง เพื่อหาข้อมูลจนนำมาสู่การจับกุม

ฉายาว่า “ตำรวจเหล็ก” ของกองปราบปราม ผู้ที่กองปราบปรามส่งไปกบดานและแฝงตัวในวัดไร่ขิง 6 เดือน ก่อนนำมาสู่การจับกุม

ตอนนี้ ผู้กองธร ได้ฉายาเพิ่ม เรียกกันว่า สารวัตรวัดไร่ขิง

ADVERTISMENT

ผู้กองธร เล่าว่า เป็นลูกชาวนา เกิดขอนแก่น เป็นพี่ชายคนโต มีพี่น้อง 4 คน จบประถม ร.ร. บ้านหนองแวงท่าวัด ไปต่อมัธยมศึกษาจากโรงเรียนแวงน้อยศึกษา

เป็นเด็กเลี้ยงควายบ้านนอก เคยทำงานจับกัง หลังจากจบมัธยมต้องออกจากบ้านมาสู้ชีวิต มีเงินแค่ 200 บาท ทำงานโรงทอผ้าแถวสมุทรปราการเป็นช่างซ่อมจักร

เศรษฐกิจฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 โรงงานถูกยุบ ต้องออกไปเกณฑ์ทหารได้ 2 ปี ตัดสินใจสอบเข้าเป็นนักเรียนตำรวจนครบาล รุ่น 70

เพราะฉะนั้นเรื่องอำพรางตัว แฝงตัว ไม่ได้มีปัญหา เพราะเคยผ่านอาชีพมามาก ทั้งช่าง ตั้งแต่ ช่างเชื่อม ช่างปูน ช่างก่อสร้าง ทำได้หมด และทำสวน

ตอนนี้คนเริ่มรู้จักตนมากขึ้น ได้เปิดหน้า ซึ่งไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะมีวิธีการเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ต่างๆ เพราะคิดตลอดชีวิตต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้

เขาบอกว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดจากพลังของหลวงพ่อวัดไร่ขิงที่เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ในวัดไร่ขิง ก่อนที่ผมทำเข้าไปทำงาน ผมได้อธิษฐาน ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดปกป้องรักษาให้ ให้ผมประสบความสำเร็จในการทำงานได้สำเร็จ”

ปรากฏว่า ที่แฝงตัวอยู่ในวัดนั้นไปด้วยดีจนเหมือนปิดหูปิดตาคนแถวนั้นจนจำไม่ได้

“รองเจ้าอาวาสซึ่งได้แสดงหมายและได้คุยก่อนหน้านี้ท่านก็จำผมไม่ได้ เด็กที่เช่าพระก็จะจำผมไม่ได้นั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดไร่ขิง”ผู้กองธรเล่า

ได้ลงไปอยู่ในพื้นที่เดือนตุลา 2567 มีผู้เสียหายไปร้อง พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. เรื่องพระยืมเงินจำนวนมาก

พ.ต.อ. ภัทราวุธ ได้ตั้งทีมสืบสวนขึ้นมาเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีนี้จึงให้รองผกก. 5 ประชุมวางแผนจะเข้าวัด เพราะเป็นพระอารามหลวง แล้วจึงนำเสนอผู้บังคับบัญชา

ปรากฏว่า ผู้บังคับบัญชา ย้ำว่า เป็นคดีใหญ่ ให้เราทำงานด้วยความโปร่งใส ระมัดระวัง ถ้า ทำไม่ดีไม่ถูกไม่ควรเอียงไปข้างหนึ่งจะทำให้วงการตำรวจวงการศาสนาเสื่อมได้

จากนั้นลงไปแฝงตัวเข้าไปทำอย่างไรให้ใกล้ตัวเจ้าอาวาสมากที่สุด แต่ละวันแต่งตัวไม่ซ้ำกัน

บางวันแต่งตัวดีเป็นคนมาทำบุญ บางวันเป็นจิตอาสา ช่วยพระยกโต๊ะ เก้าอี้ มีหลายคาแรกเตอร์ แล้วแต่บุคคลที่เราจะไปติดต่อด้วยว่าจะเป็นใคร

3 วันแรก จะไปจอดรถดับเครื่องแล้วอยู่ในรถตลอด ไม่แสดงตัวมี อาหาร น้ำ เสื้อผ้าอยู่ในรถพร้อม จะออกจากรถตอนเช้าห้องน้ำ เพื่อทำสังเกต ทำกิจสงฆ์ รับกิจนิมนต์ อย่างไร

เพื่อจะได้รู้ว่า 24 ชั่วโมงในวัดไร่ขิงเป็นอย่างไร?

หลังจากนั้น ลงจากรถ ไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนไปที่กราบหลวงพ่อวัดไร่ขิง

“ผมอธิษฐานว่าผม ร.ต.อ.นิติธร มาปฎิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสอบสวนกลางมาอาสากวาดลานวัด มาอาสาล้างสิ่งสกปรกออกจากวัด โดยได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาปฏิบัติตามหน้าที่นี้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงดลบันดาลให้ผม รวมทั้งตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปฎิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงเพื่อจรรโลงศาสนา เพื่อให้ความสำเร็จ ความศรัทธาของวัดไร่ขิงกลับมาเหมือนเดิม”

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเกินที่จะรับได้แล้ว เป็นความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง

วันแรกได้รับโจทย์ จากผู้บังคับบัญชา ไปหาบัญชี เอทีเอ็มว่าวัด มีกี่บัญชี ต้องใช้ความเพียรความอดทน

โจทย์สอง งานมหรสพรื่นเริง บริจาคกี่บัญชี ตู้บริจาคกี่ตู้ เวลาเก็บเงินจากตู้บริจาคแล้วใครเป็นคนเก็บ เก็บแล้วไปไว้ไหน แล้วใครเป็นคนเอาไปใส่บัญชี มี บัญชีไหน

จากนั้นได้เป็น “จิตอาสา” คนในวัด เรียกว่า “ลุงใจดี” จะเข้าไปช่วยงาน เทศกาลลอยกระทง สวดภาณยักษ์ มีโต๊ะเก้าอี้เยอะมากปกติ ช่วยยกโต๊ะ เก้าอี้ เห็นแล้วสงสารก็ได้มาช่วยยก หลวงพี่ หลวงพ่อทำงานเหงื่อออก จีวรเปียก

สำหรับเป้าหมาย มีพระเอกภพ ที่ลาสิขาบทออกไป หลังมีบัญชีโยงถึงเว็บพนัน แล้วโดนอายัด สะเทือนไปถึงเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ,ผู้รับผิดชอบบัญชีวัตถุมงคล ต้องเอาเลขบัญชีมาให้ได้ เลยเช่าพระไม่มีเงินสดแล้วก็ขอเลขบัญชีมา เรียบร้อย

และคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ขับรถในวัด เป็นคนเก่าคนแก่อยู่วัดนี้ จากแนวทางสืบสวนสนิทกับเจ้าอาวาส พอสมควรและได้รับความไว้วางใในเรื่องเส้นเงิน

ปรากฏไปเจอโดยบังเอิญ ฟลุ๊กมาก มีเบื้องหลัง คือ ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้หา คนนี้ ปรากฎว่า ผู้กองธรต้องดูฤกษ์ยามอุบากองก่อน แล้วไปเจอคนๆนี้ ขณะเอาจยย.มาซ่อม จากนั้นได้สะกดรอย ต่อมาอีกคน ฉัตรชัย ที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมถึงด้วย

จนนำมาสู่การรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจะขอศาลออกหมายจับ แต่เจ้าอาวาสไหวตัวทันจึงนำมาสู่การมอบตัวก่อน