ด่วน!รวบแล้ว “ซินแสโชกุน”คาด่าน ตม.ระนอง ก่อนเผ่นข้ามแดน คุมตัวถึงกองปราบเย็นนี้

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รองผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ.พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. พ.ต.อ. .ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผบก.ป. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตการนนท์ รองผบก.ทท. พ.ต.อ. บัณฑิต ทิศาภาค รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1บก.ทท. พ.ต.ท.อภิเษก ปิศโน สว.กก.6 บก.ทท. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนกองปราบปราม พนักงานสอบสวนบก.ปคบ.และตำรวจท่องเที่ยว ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ศรัณย์พัชร์ กิติขจรพัชร์ หรือ ซินแสโชกุน และกลุ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด (WealthEver) ที่ลอยแพลูกทัวร์กว่า 2000 คน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อคืนที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาติดตามและวางกรอบแนวทางในการทำคดี พร้อมกำกับควบคุมการสอบปากคำผู้เสียหายและสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 2 ราย ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มบริษัทแชร์ลูกโซ่พร้อมทั้งวางแผนแนวทางการทำงานเพื่อติดตามจับกุมหัวหน้าขบวนการเจ้าของบริษัทดังกล่าว จากการตรวจสอบขณะนี้พบว่าเคยมีประวัติการก่อคดีในลักษณะนี้ และเคยถูกออกหมายจับ 3-4 หมายแต่ต่อมาถอนหมายจับไปเพราะมีการชดใช้ค่าเสียหายกับผู้เสียหายได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นคดีลักษณะเดียวกันมีแผนประทุษกรรมคล้ายกัน นอกจากนี้ยังพบว่าตัวของซินแสโซกุนมีการเปลี่ยนชื่อสกุลมาแล้วกว่า 10 ครั้งเพื่อเปิดและจดทะเบียนบริษัท อย่างไรก็ตามขณะนี้มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีต่อโดยมีหน่วยงานหลักรับเรื่องคือ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค และตำรวจประจำสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียหายมาแสดงตัวเบื้องต้น 470 คน และจะมีมากกว่านี้

“คดีนี้ผู้เสียหายที่อยู่ในพื้นต่างจังหวัด ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่กองปราบฯ ก็ได้ โดยสามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ได้ในพื้นที่สถานีตำรวจในภูมิลำเนาของตนเอง หลังจากตนจะเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการรวบรวมสำนวนมาไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อศูนย์กลางในการทำงานเนื่องคดีนี้ เพระเข้าข่ายความผิดฉ้อโกงประชาชนที่มีผู้เสียหายมากกว่า 10 คน สำหรับมาตรการหลังจากนี้จะเร่งติดตามยึดทรัพย์เพื่อนำเงินทั้งหมดมาชดใช้ค่าเสียให้กับผู้เสียหายทั้ง ซึ่งที่ผ่านคดีในลักษณะนี้จะมีการยอมความกันได้แต่สำหรับคดีนี้จากการสอบปากคำผู้เสียหาย และพยานหลักฐานพบว่า ไม่สามารถยอมความได้เพราะเป็นข้อหาฉ้อโกงประชาชนสำหรับมาตรการหลังจากนี้จะเร่งติดตามยึดทรัพย์เพื่อนำเงินทั้งหมดมาชดใช้ค่าเสียให้กับผู้เสียหายทั้ง ซึ่งที่ผ่านคดีในลักษณะนี้จะมีการยอมความกันได้แต่สำหรับคดีนี้จากการสอบปากคำผู้เสียหาย และพยานหลักฐานพบว่า ไม่สามารถยอมความได้เพราะเป็นข้อหาฉ้อโกงประชาชน”ผบช.ก. กล่าว

Advertisement

ต่อมาเวลา 13.00 น.ภายหลังการประชุมวางแนวทางในการดำเนินคดีกับซินแส โซกุน และการเยียวยาช่วยเหลือเหยื่อ ซึ่งใช้เวลาในการประชุมนาน กว่า 2 ชม. พล.ต.ต.ฐิติราช ได้เรียกผู้เสียหายเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจถึงแนวทางการทำงาน พร้อม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายอยู่ทั่วประเทศ แต่ขอรวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริงให้เรียบร้อยเสียก่อนว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง และจะพยายามนำเงินมาคืบผู้เสียหายให้มากที่สุดและจะทำการติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ต้องชี้แจ้งว่าหัวหน้าข่ายไม่สามารถคืบเงินให้ผู้เสียหายได้เพราะตัวหัวหน้าข่ายก็เป็นผู้เสียหายที่โดนนางสาว พิสิษฐ์ อริญชญ์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหารบริษัทเวลล์เอฟเวอร์หลอกเช่นกัน ขณะนี้ตำรวจได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน และขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการ หรือมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์สินของ ซินแสโชกุน มาเฉลี่ยคืนผู้เสียหายทุกคนให้ได้ โดยประเมินความเสียหายไว้ที่ประมาณ 20 ล้านบาท จากการตรวจสอบพฤติการณ์พบว่าซินแสโชกุน ได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้งและใช้รูปแบบเดิมในการก่อเหตุ เปลี่ยนเพียงชื่อเท่านั้น อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ส่วนบุคคลใดที่ไม่ประสงค์เข้าแจ้งความก็จะไม่ได้สิทธิ์ทางแพ่งและไม่ได้รับเงินคืน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ภายหลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ซินแสโชกุลได้ส่งคลิปเสียงผ่านไลน์กลุ่ม โดยไม่ให้ผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจ และอ้างว่าเหตุที่ต้องยกเลิกเที่ยวบิน เกิดจากผู้เสียหาย รวมตัวแจ้งความกับตำรวจ จึงส่งผลกระทบต่อสายการบิน ทำให้สายการยินไม่สามารถส่งเครื่องบินมารับผู้โดยสารได้ พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้คลิปเสียงนี้แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาอื่นกับซินแสโชกุนได้อีกหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว ซินแสโชกุน มาที่กองบังคับการปราบปรามภายในวันนี้ เวลา 18.00 น.อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารพบความเคลื่อนไหวของซินแสโชกุนที่จังหวัดระนอง และอยู่ระหว่างการติดตามนำตัวมาที่กองบังคับการปราบปราม

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ควบคุมตัวหัวหน้ากลุ่มแชร์ลูกโซ่ บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด (WealthEver) จำนวน2 คน มาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นหญิงทั้งสองรายปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ก่อนที่จะเผยสั้นๆว่าเป็นสมาชิกของบริษัทดังกล่าวจริง ซึ่งในระหว่างที่ตนเป็นสมาชิกไม่เคยเกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าว โดยก่อนที่จะมาขายทัวร์นั้นตนได้ซื้อสินค้าและได้รับรางวัลเป็นแพ็กเกจในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้ไปจริง จากนั้นจึงกลับมารับกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อเดินทางกลับไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อมาถึงวันเดินทางกลับพบปัญหาดังกล่าว

ด้าน นางสาวผ่องนภา ผูู้เสียหาย เปิดเผยว่า เพื่อนตนเป็นคนชักชวนให้ตนไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะมีโปรโมชั่นตั๋วการเดินทางที่ราคาถูกจากบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ ประมาณ 10,000-20,000 บาท ตนจึงสนใจและโอนเงินจำนวน 10,000 และมาตามเวลานัดหมาย แต่ก็ไม่พบ ตัวแทน และไม่มีเอกสารใดๆ มีเพียงสลิป เงินที่ตนโอนเพียงเท่านั้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ตนก็ไม่สามารถที่จะติดต่อตัวแทนหัวหน้าทีม ได้อีกเลย จึงเดินทางมาแจ้งความที่กองปราบ ส่วนเพื่อนคนที่จะร่วมเดินทางที่เจอที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็บอกว่ายังเชื่อมั่นว่าจะได้เงินคืนจากหัวหน้าทีม จึงไม่ดำเนินการแจ้งความ

น.ส.สิริพิชชา อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ของตนต่างจากคนอื่นเนื่องจากตนไม่ใช่การขายตรงแต่เป็นการขายทัวร์อย่างเดียว ซึ่งตนเป็นสมาชิกเทรดออนไลน์หนึ่งซึ่งสามารถใช้เทรดในการแลกซึ่งสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้ ตนใช้เทรด 50 เปอร์เซ็นต์ และเงินสด 50 เปอร์เซ็นต์รวมเป็นเงินจำนวน 30,000ในการซื้อตั๋วดังกล่าว ตนยืนยันว่าไม่รู้จักบริษัทดังกล่าวเลย แต่จะมีแม่ข่าย ทราบชื่อ มาดาม ซู ของบริษัทดังกล่าวมาขายตั๋วในเทรดออนไลน์ดังกล่าว โดยส่วนตัวตนใช้บริการบริษัททัวร์อยู่แล้วราคาประมาณนี้ แต่ไม่เคยใช้บริการของบริษัททัวร์ เวลท์เอเวอร์ จำกัด มาก่อนแต่ลุงสนใจเพราะเห็นว่ามีราคาที่ถูกคนละ 10,000 ตนจึงตัดสินใจโอนเงินให้ลุงไป 30,000 บาท และไม่ทราบว่าการโอนเงินจ่ายค่าทัวร์คือการสมัครสมาชิก ทั้งนี้เมื่อโอนเงินเรียบร้อยจะมีแม่ข่ายดึงข้าไปยังกลุ่มทัวร์โดยมีลูกทัวร์จำนวน 60 คน ที่อยู่ในความดูแลของแม่ข่ายนั้น แม่ข่ายจะทำหน้าที่แจ้งนัดสถานที่ เอกสารต่าง ๆ การเตรียมตัวในการเดินทาง จากนั้นเมื่อมาถึงสนามบินเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 11 เมษายน จะเข้าเช็คอินก็ไม่สามารถเช็คอินได้ จึงได้ติดต่อแม่ข่ายได้อยู่ แต่อ้างว่าจะมีการเลื่อนไฟล์ต่าง ๆ ตนจึงตัดสินใจสอบถามทางการท่าจึงรู้ว่าไม่มีการจองทัวร์ดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image