เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 เมษายน ที่สน.ดุสิต นายพริษฐ์ รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ อายุ 30 ปี หลานชายหลวงเสรีเริงฤทธิ์ อาชีพ พนักงานราชการแห่งหนึ่ง พร้อม น.ส.ภัคจิรา กีรติวิบูลย์วงศ์ อายุ 19 ปี นิสิตปี 1คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น.ส.สุทธิดา วัฒนสิงห์ อายุ 21 ปี นิสิตปี 3 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนายคุณภัทร คะชะนา อายุ 22 ปี นิสิตปี4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.มอ ระนา รองสารวัตร ( สอบสวน ) สน.ดุสิต เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและให้ช่วยติดตามหมุดคณะราษฎร สัญลักษณ์เหตุการณ์อภิวัฒน์สยาม 2475 ที่อยู่บริเวณลานหน้าพระบรมรูปทรงม้า ที่หายไป
นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้อาสามาเป็นหนังหน้าไฟให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมไทยที่ไม่สบายใจ เนื่องตนอายุยังไม่มากคิดว่าคงได้รับความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ สำหรับหมุดนั้นเป็นสิ่งที่ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่าเราได้มีการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเป็นระบบการปกครองที่ดีที่สุดในประเทศไทย ในส่วนของลูกหลานคณะราษฎรมีทั้งที่พอใจและไม่พอใจ ตนจึงอาสามาในวันนี้ ด้วยความที่คณะราษฎรมีผู้เกี่ยวข้องทั้งพลเรือนและทหารจำนวนมากในยุคนั้น บุคคลเหล่านั้นยังอยู่ในราชการเป็นจำนวนมากและลูกหลานเติบโตต่อมา หลายท่านที่เป็นตำรวจ ทหาร ที่ทั้งรับราชการและไม่รับ มีการใช้คำพูดรุนแรงมาก จึงมาเป็นตัวแทน
อยากทราบว่าหมุดคณะราษฎรหายไปได้อย่างไร และอยู่ที่ไหน จะดำเนินการอย่างไร ไม่ได้จะเอาเป็นเอาตายแต่อย่างใด เรื่องผ่านมาจะ 100 ปีแล้วผู้ใหญ่ของตนก็ทำงานกับฝ่ายความมั่นคงของท่านรองนายกรัฐมนตรี อีกทั้งตนยังเรียนหนังสือสาธิตจุฬาลงกรณ์รุ่นเดียวกับลูกท่านนายกรัฐมนตรีด้วย
สุดท้ายอยากถามไปยังรุ่นพี่ที่รักคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่าพรรคของท่านพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่และได้กำเนิดขึ้นมาโดยหนึ่งในคณะราษฎรคนหนึ่ง ท่านไม่คิดจะออกมาพูดหรือแสดงความรับผิดชอบบ้างเลยหรือ หมุดคณะราษฎรไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นของประชาชนคนไทย อย่างไรก็ตามตนได้ไปสอบถามทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วในเมื่อท่านบอกไม่ทราบตนก็เคารพในการตอบ
ด้าน น.ส.ภัคจิรา เปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวจากทางอินเตอร์เน็ต จึงเข้าลงบันทึกประจำวันพร้อมมาสอบถามว่าหมุดดังกล่าวหายไปได้อย่างไร ใครเป็นผู้ที่เอาไป และทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ยังไม่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณลานพระรูปทรงม้า ว่าพบเห็นใครมาเอาหมุดดังกล่าวออกไป อย่างไรก็ตามจะคอยติดตามเรื่องนี้จนกว่าจะทราบว่าหมุดดังกล่าวหายไปได้อย่างไร
ร.ต.อ.มอ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว ผู้กล่าวหามาขอลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วให้ช่วยติดตามทรัพย์สินที่หายไปคืนมา สำหรับทรัพย์สินที่หายไปนั้นเป็นทรัพย์สินของทางราชการ เป็นผู้ใดก็ได้ที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษ อย่างไรก็ตามในเรื่องดังกล่าวจะต้องนำเรียนผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาต่อไป