ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ต.อ.อนิน ศรีสรรพางค์ ผู้กำกับการ พ.ต.ต.บรรณาสิทธิ์ ชัยนวล สารวัตรเวร สภ.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ทุ่งหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.ราชบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลปากท่อ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพผู้เสียชีวิตที่บริเวณป่าละเมาะหลังโรงงานเผากะลามะพร้าว ซอยห้วยใหญ่ หมู่ 1 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
สภาพศพเป็นชาย สวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อยืดสีดำ นอนคว่ำหน้าอยู่ ตรวจสอบตามลำตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีร่องรอยถูกของมีคมแทงรวม 17 แผล ใกล้กันพบกระเป๋าสตางค์สีดำตกอยู่ 1 ใบ ภายในมีรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 3 รูป เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ใกล้กันยังพบรอยเลือดที่แห้งติดตามใบไม้และพื้นดินเป็นจุด ๆ ประมาณ 3 จุด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เพื่อตรวจดีเอ็นเอว่าจะใช่ของผู้ตายหรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายนั้นน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และได้ลงมือทำร้ายร่างกายของผู้ตาย ก่อนจะช่วยกันลากศพไปทิ้งที่บริเวณดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายนัย สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นคนงานในโรงงานเผากะลา และมีบ้านพักอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพมาทำการสอบปากคำ โดยในเบื้องต้นนั้นนายนัยให้การว่า มีเพื่อนที่ชื่อนายวิน ซึ่งเป็นแรงงานชาวพม่าและพักอยู่ด้วยกันหายไปตั้งแต่คืนวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากนั่งดื่มเหล้าด้วยกันกับเพื่อนอีก 3 คน ก่อนที่ตนเองนั้นจะเข้านอนไปก่อนเพราะความเมา ส่วนเพื่อนอีก 3 คน รวมทั้งผู้ตายนั้นได้เดินออกไปนอกบ้าน และหายไปทั้งหมด ตนออกตามหาแต่ก็ไม่เจอ จึงคิดว่าเพื่อนหนีไปทำงานที่อื่น จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ไปตามว่าพบศพอยู่ใกล้กับบ้านพัก และเมื่อดูรูปถ่ายที่พบในกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายก็ยืนยันว่าเป็นเพื่อนของตนเองจริง แต่ไม่ทราบว่าไปตายตอนไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายนัย จึงได้นำตัวไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.ทุ่งหลวง เพื่อจะได้สืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายที่ฆ่าโหดแรงงานพม่า มาดำเนินคดีต่อไป
